ศบค.เคาะแล้ว เปิดผับ-บาร์ 1 มิ.ย.พร้อมปรับพื้นที่โซนสี ฟ้า-เหลือง-เขียว

20 พฤษภาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ชุดใหญ่) ครั้งที่ 8/2565 กล่าวภายหลังการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด- 19 หรือ​ ศบค.​ ว่า จากการชี้แจงในที่ประชุม สิ่งที่น่ายินดีคือ สถานการณ์การติดเชื้อเริ่มที่จะลดลงตามลำดับ​ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง​ รวมทั้งประชาชนด้วย​ ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการ ที่ได้กำหนดออกไป

สำหรับผู้ที่ยังหละหลวมอยู่ ขอให้ร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฉีดวัคซีนให้ครบ ขณะนี้ ปริมาณวัคซีนและ​ยารักษาโควิด-19 มีเพียงพอ​ รวมไปถึงมีเตียงที่เตรียมไว้สำหรับการรักษา สิ่งเหล่านี้เป็นมาตรการที่รัฐดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ได้ผ่อนคลายปรับพื้นที่โซนสี​ โดยเหลือ​ สีเขียว สีเหลือง​ และสีฟ้า เนื่องจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้น อีกทั้งมีมีมติในการเห็นชอบ ผ่อนคลายมาตรการ ด้านการท่องเที่ยว เปิดสถานบันเทิง ผับ​ บาร์ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่รับมาและดำเนินการพิจารณา ร่วมกับมาตรการด้านสาธารณสุข เมื่อจะผ่อนคลายให้มีการเปิด ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ให้บริการและนักท่องเที่ยว

การเปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในวันที่ 1 มิ.ย.2565 จะเปิดในเฉพาะพื้นที่โซนสีฟ้า และสีเขียว เท่านั้น  สำหรับเวลาการให้บริการ จำหน่าย และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 24.00 น.และเปิดบริการไม่เกิน 24.00 น.

ขณะเดียวกันมีการปรับมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวันในการเดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางอากาศ ส่วนของทางเรือและทางบก มีมาตรการอยู่แล้ว ซึ่งจะได้มีการหารือตามสถานการณ์ต่อไป ในวันนี้ก็ยังเรียบร้อยดีอยู่

นายกรัฐมนตรี​ ยืนยันว่า ปริมาณวัคซีน โควิด​-19 ยังมีเพียงพอ จึงขอความร่วมมือในการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ ให้ได้มากที่สุด เข็ม 3 และเข็ม 4 เมื่อมีวัคซีนก็ขอให้ฉีดอย่างไรก็ปลอดภัย ตนเองก็ฉีดมาแล้วเข็ม 4 ยังไม่มีอะไร

ที่ประชุมยังมีการสอบถามเรื่องการเปิดโรงเรียน on site ซึ่งมีการรายงานว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่มาตรการรัฐออกไป รู้ว่าประชาชนเดือดร้อน รู้ว่าประชาชนไม่สบายใจ เพราะทุกคนถูกสถานการณ์ทำให้เกิดความลำบากในการประกอบการ ประกอบอาชีพในทุกเรื่อง รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ อย่างระมัดระวัง จึงขอให้เข้าใจรัฐบาลด้วย

วันนี้ประเทศไทยถูกยกระดับ ให้เป็นประเทศต้นๆในโลกในเรื่องการดูแลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด​ -19 หลายอย่างก็ทำได้ดีและ WHO  ก็นำของเรื่องของเราไปศึกษา​ และวันนี้การท่องเที่ยวของไทย ก็ได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศ ทั้งกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว หากเราทำได้และร่วมมือกันดี ฉีดวัคซีนให้ครบ ก็จะดีขึ้นไปกว่านี้ คิดว่าเพราะเครื่องจักรสำคัญของเราก็ทราบดี​คือ เรื่องเศรษฐกิจ คือการท่องเที่ยว คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกมากพอสมควร รายได้ด้านการท่องเที่ยวคงดีขึ้น แต่ก็ยังไปได้ช้า เนื่องจากมีปัญหา 3 ซ้อน คือ

• มาตรการกีดกันทางการค้า
• สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด​-19
• และสถานการณ์ความขัดแย้งซึ่งเกี่ยวพันกันทั้งหมด​

เท่ากับรัฐบาลเจอ 3 เด้งอยู่ตอนนี้ ซึ่งตนก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ตัดสินใจบนพื้นฐานของความถูกต้องจากการหารือกับทุกฝ่าย