"บิ๊กป้อม"ส่ายหัวไม่ตอบปม"พิเชษฐ"ส่วนเจ้าตัวทำจดหมายค้านทุกการลงโทษ

17 พฤษภาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่ายหน้าปฏิเสธตอบคำถามกรณี นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรค ส่งหนังสือเพื่อคัดค้านมติคณะกรรมการข้อกฎหมาย และข้อบังคับ ที่สั่งห้ามร่วมกิจกรรมพรรค 6 เดือน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินจริง และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา 

ขณะที่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า มติดังกล่าวไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561 เนื่องจากมติดนี้ เป็นเพียงความเห็นของคณะกรรมการ ข้อกฎหมายและข้อบังคับพรรค มิใช่มติที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค บทลงโทษดังกล่าวจึงไม่สามารถบังคับ ส่วนการจัดตั้งกลุ่มการเมือง ในนามกลุ่ม 16  เพื่อเคลื่อนไหวการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคพลังประชารัฐ จึงขอให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ เนื่องจากการที่มีกลุ่ม 16 ไม่ได้หมายความว่า มี ส.ส.16 คน เพื่อต่อรองทางการเมือง ทำลายเอกภาพพรรค ตามที่ถูกกล่าวหา แต่หมายถึงกลุ่มบุคคลที่ทำความดี วางเป้าหมายทำความดี อะไรที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้องก็ทักท้วง หากรัฐบาลทำดีก็จะสนับสนุน และกลุ่ม 16 เกิดจากการผลักดัน พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ และเพื่อตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น อันไหนไม่ถูกต้อง อันอาจจะทำให้รัฐเสียหาย เช่น โครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือ EEC หากข้าพเจ้าไม่โต้แย้งไว้อาจเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ และอาจทำให้มีผู้ยื่นเรื่องต่อ กกต. หรือ ป.ป.ช. ซึ่งจะมีผลเสียต่อรัฐบาล และขอให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหาโดยข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่เคยได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเพียงรับประทานอาหารพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นทั่วไป ซึ่งเป็นปกติของ เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทน และ เป็นสถานที่สาธารณะ โดยไม่ได้เป็นที่ปรึกษาให้เกิดมีผลได้ผลเสียของพรรค และมีเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนหลายคนทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ร่วมพูดคุยกัน เช่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และนายดล เหตระกูล โดยเนื้อหาการสนทนาก็เป็นเรื่องทั่วไป 

ส่วนการพูดคุยโทรศัพท์กับนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนี หมายจับคดีที่ศาลมีคาพิพากษาและเป็นบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคนั้น ส่วนตัวชี้แจงว่า เนื่องจากระหว่างรับประทานอาหารนายยุทธพงศ์ โทรศัพท์หานายทักษิณ เมื่อนายทักษิณ ทราบว่าตนรับประทานอาหารอยู่ในวง ก็พูดคุยด้วยเป็นการสนทนาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบปกติตามมารยาท เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกฯ

นายพิเชษฐ ย้ำว่า เรื่องนี้มีพยานที่อยู่ในโต๊ะอาหาร ทั้งนายประเสริฐ จันทรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ และตนไม่เคยติดต่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายทักษิณแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ ข้อกล่าวหาของคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับพรรค ว่าตนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐและมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกพรรคการเมือง เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง และเกินความเป็นจริงโดยมีเจตนาให้ข้าพเจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ด้วยเหตุ ดังกล่าว จึงขอคัดค้านมติที่มติที่ประชุมคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับ