จับตารัสเซีย ฉลองวันแห่งชัยชนะเหนือนาซี 9 พ.ค.
จับตาความเคลื่อนไหวของรัสเซียหลังการรุกรานยูเครนผ่านมานานกว่า 2 เดือน ซึ่งในวันที่ 9 พ.ค. นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางทหารของรัสเซีย เป็นวันแห่งการประกาศชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีในปี 2488 ซึ่งทางปูตินเคยตั้งใจปักธงเอาไว้ว่าจะใช้เป็นวันประกาศชัยชนะเหนือยูเครน
โดยปกติในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีของรัสเซีย มักจะมีลักษณะคล้ายงานใหญ่ประจำปีของประเทศ รวมทั้งมีขบวนพาเหรดทหารในจัตุรัสแดงของกรุงมอสโกและเมืองต่างๆ ทั่วรัสเซีย
ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน วันแห่งชัยชนะได้กลายเป็นวันแห่งการการแสดงความแข็งแกร่งของกองกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ทางการทหาร ตลอดจนโอกาสที่จะระลึกถึงการเสียสละของสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีพลเมืองโซเวียต 27 ล้านคนเสียชีวิต นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่รัสเซียเรียกว่ามหาสงครามแห่งความรักชาติ
แต่ในปีนี้ความคาดหวังของงานเฉลิมฉลองได้มีนัยสำคัญที่พิเศษกว่าปีอื่น หลังรัสเซียเริ่มทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนเป็นเวลาหลายเดือน แต่ยังคงห่างไกลจากการยึดครอง และปราศจากชัยชนะทางการทหารรูปแบบใดที่รัสเซียสามารถเฉลิมฉลองได้
ช่วงของการเฉลิมฉลองที่ถูกจับตาที่สุดคือช่วงที่กองทหารจะแห่กันไปยืนเรียงแถว ต่อหน้าผู้นำระดับสูงและประธานาธิบดีซึ่งจะประกาศคำปราศรัยที่ดังก้องไปทั่วจัตุรัสแดง เพราะที่ผ่านมาผู้นำรัสเซียมักใช้ช่วงเวลานี้เพื่อส่งข้อความแสดงเจตจำนงที่ยิ่งใหญ่ไปยังทหารและประชาชนทั่วประเทศ ทำให้เกิดความคาดหวังว่าการปราศัยของปูตินในปีนี้จะพูดถึงประเด็นสงครามในยูเครนอย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์รัสเซีย-โปแลนด์ ระบุว่า วัตถุประสงค์หลักของการเฉลิมฉลองปีนี้คือการประกาศชัยชนะที่ควรจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องเตรียมการประชาสัมพันธ์ถึงความสำเร็จบางอย่างแทน เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวรัสเซียที่จะเห็นว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนที่พวกเขาเคยได้ยินได้นำไปสู่ผลลัพท์บางสิ่งที่จับต้องได้
แทนที่จะเฉลิมฉลองต่อความสำเร็จในการล้มล้างรัฐบาลของยูเครน เครมลินจึงต้องลดเป้าหมาย ไปจัดการกับการยึดครองเมืองท่าสำคัญอย่างมาริอูโปลแทน แม้ว่าสภาพปัจจุบันของเมืองอาจอยู่ในซากปรักหักพัง แต่รัสเซียก็จะอ้างถึงความสำเร็จในการกวาดล้างนาซีและการทำให้เมืองเป็นพื้นที่ปลอดทหารของยูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอาจอ้างชัยชนะเหนือกองพันอาซอฟในยูเครนที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มนีโอ–นาซี เพื่อเชื่อมโยงให้เข้ากับประเด็นสำคัญของการเฉลิมฉลอง คือชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนี
นอกจากนี้ขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะที่จัตุรัสแดงยังเป็นโอกาสสำคัญที่รัสเซียจะอวดโฉมอาวุธยุทโธปกรต่างๆ ท่ามกลางทหารกว่า 10,000 นาย เช่น หนึ่งในรถถังใหม่ล่าสุดของรัสเซีย และระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน