svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดคำวินิจฉัยฉบับเต็มยันคุณสมบัติ วรวิทย์ "ประธานศาลรธน." ได้ไปต่อ

กรรมการสรรหาตุลาการศาลรธน. ส่งผลคำวินิจฉัยฉบับเต็มถึงศาลรธน. ประทับตรารับรอง คุณสมบัติวาระดำรงตำแหน่ง วรวิทย์ กังศศิเทียม "ประธานศาลรธน." ได้ไปต่อไม่ขัดรธน.

 

29 เม.ย.65  ผู้สือข่าวรายงานว่า  หลังจากคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการฯ พิจารณาตามที่สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ส่งเรื่อง เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ มีประเด็นปัญหาว่าต้องพ้นจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เหตุมีอายุครบ 70 ปีหรือไม่ โดยที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ 3 ต่อ 2 เสียงมีมติให้รับเรื่องไว้พิจารณานั้น 

กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย. คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาแล้วมีมติเอกฉันท์ 5 ต่อ 0 เสียง ระบุว่า นายวรวิทย์ ไม่ขาดคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ

 

สำหรับคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 203 ประกอบด้วย ประธานศาลฏีกา เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร , ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, ประธานศาลปกครองสูงสุด และ กรรมการที่มาจากแต่งตั้งโดยองค์กรอิสระ ได้แก่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน, คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) องค์กรละ 1 คน

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 65  คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา  ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ  แจ้งคำวินิจฉัยคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  โดยแนบผลคำวินิจฉัยโดยละเอียด ที่ลงนามโดย น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม  ประธานศาลฏีกา ในฐานะประธานกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 

 

 

เปิดคำวินิจฉัยฉบับเต็มยันคุณสมบัติ วรวิทย์ "ประธานศาลรธน." ได้ไปต่อ

 

เปิดคำวินิจฉัยฉบับเต็มยันคุณสมบัติ วรวิทย์ "ประธานศาลรธน." ได้ไปต่อ

 

โดยสรุป เมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2563 ได้บัญญัติรับรองสถานะการดำรงตำแหน่งของนายวราวิทย์  กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไว้อย่างชัดเจนแล้วในบทเฉพาะกาล 

 

ดังนั้น คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า  นายวรวิทย์ กังศศิเทียม มิได้เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 202 ( 1 ) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  อันเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 208 ( 1 ) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ประการใด