"พายุฤดูร้อน"ถล่ม 16 จว. เสียหาย 415 หลัง ปภ.แจ้งเตือนวันนี้ 57 จว.เฝ้าระวัง

29 เมษายน 2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานผลกระทบจาก พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 28 – 29 เมษายน 2565 ส่งผลให้เกิดวาตภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ตาก พิจิตร สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สกลนคร บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา และจันทบุรี รวม 30 อำเภอ 48 ตำบล 93 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 415 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย (กาฬสินธุ์) ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็น

ภาคเหนือ 4 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 20 ตำบล 47 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 244 หลัง ได้แก่

1.แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง

2.แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังชิ้น และอำเภอลอง รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 15 หลัง

3.ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา อำเภอท่าสองยาง และอำเภอเมืองตาก รวม 5 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 140 หลัง

4.พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพทะเล อำเภอตะพานหิน อำเภอทับคล้อ อำเภอดงเจริญ และอำเภอบางมูลนาก รวม 12 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 84 หลัง

ภาคกลาง 4 จังหวัด รวม 6 อำเภอ 6 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 16 หลัง ได้แก่

5.พระนครศรีอยุธยา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเสนา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

6.สระบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหนองโดน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

7.ลพบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอท่าวุ้ง และอำเภอชัยบาดาล รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

8.สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองสิงห์บุรี รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 11 หลัง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด รวม 12 อำเภอ 19 ตำบล 37 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 155 หลัง ได้แก่

9.มุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหาร รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4 หลัง

10.กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสมเด็จ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

11.มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเชียงยืน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 25 หลัง

12.สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเจริญศิลป์ และอำเภอสว่างแดนดิน รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง

13.บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน

14.ขอนแก่น เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงใหญ่ อำเภอหนองสองห้อง อำเภอหนองเรือ และอำเภอบ้านไผ่ รวม 10 ตำบล 24 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 115 หลัง

15.นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพิมาย และอำเภอแก้งสนามนาง รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง

ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่

16.จันทบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสอยดาว รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือน พื้นที่เฝ้าระวัง รายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 29 เมษายน 2565 โดยระบุว่า

พื้นที่เฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

พื้นที่เฝ้าระวังอากาศร้อนจัด

ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ แม่สะเรียง) และลำปาง (อ.เมืองฯ เถิน)

พื้นที่เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ (PM 2.5) ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ภาคเหนือ จ.เชียงราย (อ.เมืองฯ แม่สาย เชียงของ) เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว) และน่าน (อ.เมืองฯ)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย (อ.เมืองฯ) และบึงกาฬ (อ.เมืองฯ)

ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังอากาศร้อนจัด ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งและระวังอาการโรคลมแดด (Heat Stroke)

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางที่โล่งแจ้ง และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ