วันนี้ (25 เม.ย.) นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่หาเสียงตลาดสามย่าน ตลาดโบ๊เบ๊ และขึ้นรถแห่แนะนำตัวไปตามถนนรองเมือง เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุน และรับฟังปัญหา โดยเขตปทุมวันมีพื้นที่ใต้ทางด่วนจำนวนมาก ถ้าหากได้แต่ผู้ว่าฯ กทม. จะนำพื้นที่เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ เช่น ทำสนามกีฬา สวนสาธารณะ ตลาดเล็ก ๆ ให้กับชาว กทม. ซึ่งอาจต้องเจรจา กลับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ว่างเปล่าของการรถไฟฯ และกรมธนารักษ์ด้วย ขณะเดียวกันมีแนวคิดว่า ปัญหาจอดรถในที่ห้ามจอด ยังมีความลักลั่นกันอยู่ ควรโอนอำนาจของตำรวจมาอยู่ในความดูแลของ กทม. จะดีกว่า
นายสกลธี กล่าวว่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาใช้เวลาไปกับการลงพื้นที่ตลาดต่าง ๆ เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้าบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าคนไม่มีกำลังซื้อ ตลาดไม่คึกคัก จากปัญหาโควิด ซึ่งตนเห็นว่า ภาครัฐต้องจัดกิจกรรมมาร่วมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และขณะนี้ตนมีทีมงานเป็นอดีตรองที่เป็นอดีตรองผู้ว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยโปรโมตการท่องเที่ยว ซึ่งยังมีอีกหลายพื้นที่ที่สามารถทำให้วิถีชุมชนกับการท่องเที่ยวเป็นแบบสมัยใหม่ และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดได้ อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศ 1 พ.ค. นี้
ส่วนการตรวจสอบการทุจริตต่างๆ ใน กทม. นั้น นายสกลธี ยืนยันว่า จะกระจายงบลงเขตต่างๆ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมางบกระจุกอยู่ส่วนกลาง ทำให้ปัญหาของเขตต่าง ๆ ถูกละเลย และงานไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งโครงการที่จะทำในแต่ละเขต จะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเสนอความเห็นเข้ามา
สำหรับการหาเสียงเลือกตั้ง จะเน้นผสมผสานระหว่างตลาด ชุมชน ออกเวทีดีเบต และเปิดเวทีปราศรัย โดยลงพื้นที่ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ค่ำ อย่างต่อเนื่อง ส่วนกระเเสความนิยมก็ดีขึ้นตามลำดับ แรก ๆ คนอาจจะยังไม่รับรู้ แต่ตอนนี้ผลตอบรับดี หลักที่โพลสาธารณะยังเป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ ต้องลงพื้นที่เองทำโพลของตัวเอง