ปริญญ์ ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้ รอ ตร. สน.ลุมพินี ประสานมา

ความคืบหน้ากรณี “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง เปิดข้อมูลเหยื่อนักศึกษาสาววัย 18 ปี ถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ระดับประเทศลวนลาม และยังมีเหยื่อหญิงสาวคนอื่น ๆ อีกนับสิบคน ซึ่งต่อมา นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าว พร้อมลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม 

ล่าสุดวันนี้ (15 เม.ย.) นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อสั้น ๆ ว่า วันนี้ตนจะยังไม่ได้เข้ามาพบเจ้าพนักงานที่ สน.ลุมพินี แต่ก็รอให้พนักงานสอบสวนติดต่อมา โดยจะให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการ

พร้อมย้ำว่า ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา โดยบางคนที่ไปแจ้งความกล่าวหาตนเองนั้น ตนเองยังไม่รู้จักไม่เคยพูดคุยเลยด้วยซ้ำ และยืนยันว่า หลังจากนี้พร้อมพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม แม้อาจจะต้องใช้เวลา แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็พร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดทุกอย่างอีกครั้ง

ด้าน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายปริญญ์ ว่าจะส่งผลกระทบกับพรรคหรือไม่ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว และนายปริญญ์ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งไปแล้ว เพื่อไปพิสูจน์ความจริง ซึ่งยังไม่มีคำตัดสินถือว่านายปริญญ์ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ตอนนี้จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รอกระบวนการยุติธรรมก่อน อย่าเพิ่งตัดสินว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะมีผู้เสียหายหลายคน จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ข่าวออกมาในช่วงนี้ อาจจะกระทบกับการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ได้ เพราะนายปริญญ์ เป็น ผอ.เลือกตั้งฯ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ในวงการเมืองมีทั้งผู้ที่วังดีและไม่หวังดี จึงอยากให้ประชาชนรับฟังข้อมูลทั้งสองฝ่ายก่อน

ส่วนผลกระทบกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คงไม่มีผลกระทบมาก เพราะนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรค ก็มีการวางแผนหาเสียงเองอยู่แล้ว และนายปริญญ์ ในฐานะ ผอ.เลือกตั้งฯ ก็ได้ลาออกไปแล้ว จึงไม่คิดว่าจะมีผลกระทบเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมานายสุชัชวีร์ และทีมงานก็ดำเนินการหาเสียงมาโดยตลอด