ไฟไหม้ตลาดปักธงชัย ดับ 1 ราย เสียหาย 70 ล้าน

จากผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ ปัญญา เทียนเมืองปัก โพสต์ภาพเหตุการณ์เปลวไฟกำลังลุกไหม้อาคารในตลาดชุมชนปักธงชัย หน้าวัดกลาง ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ไฟโหมไหม้อย่างรุนแรง เพราะส่วนใหญ่เป็นเรือนแถวที่ปลูกติดกันและบางส่วนเป็นอาคารไม้ 2 ชั้นที่ปลูกสร้างมานานแล้ว

เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมือง เมืองปัก ระดมรถดับเพลิงในพื้นที่ อ.ปักธงชัย 10 คัน มาช่วยฉีดน้ำสกัดและฉีดน้ำหล่อเลี้ยงอาคารข้างเคียงเอาไว้ไม่ให้เปลวไฟลุกลาม ท่ามกลางความโกลาหลหนีตายของชาวบ้านที่พากันตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาดปักธงชัยครั้งใหญ่มาก่อนหน้านี้เมื่อปี 2554

สำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ครบ 10 ปีแล้วที่มาเกิดเหตุอีกครั้ง โดยบริเวณเกิดเหตุ เป็นร้านตัดผม จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และร้านขายผ้า ส่วนต้นเพลิงคาดว่าน่าจะมาจากบ้านหลังติดกันที่ไม่ได้ขายสินค้า

ด้านนางสาวอโนชา เลาเจริญทรัพย์ เจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ เล่าว่า บ้านต้นเพลิงเป็นห้องแถว 2 ชั้นปลุกติดกัน ซึ่งเจ้าของห้องได้อุ่นอาหารทิ้งไว้แล้วก็หลับไป จนมาเกิดเพลิงไหม้ขึ้นดังกล่าว ซึ่งบ้านของตนเป็นบ้านปูน แต่ด้านหลังบ้านเป็นไม้ จึงถูกเพลิงไหม้ไปด้วย ตนและเพื่อนจึงช่วยกันดันไม้ที่ติดไฟให้ออกไปห่างจากตัวบ้านได้ก่อน ไฟจึงไม่ลามมาถึงตัวบ้านที่เป็นตึก

โดยบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้สองชั้นของนางศรีวรรณ เกยุรพันธุ์ อายุ 80ปี   ประกอบอาชีพขายล็อตเตอรี่ ทีมผจญเพลิงของกู้ภัยฮุก 31 โคราช พบว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ อยู่ใต้ซากเศษไหม้ที่ถูกเพลิงไหม้หล่นมาทับ และมีร่องรอยถูกไฟไหม้เกินกว่าร้อยละ 90

เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นเจ้าของร้านจักรยานที่อยู่ใกล้กับบ้านเกิดเหตุ เล่าว่าเมื่อช่วงเวลา 16.00 น.ของวันที่10 เมษายน โดยประมาณ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดออกมาจากบ้านเกิดเหตุ จึงวิ่งออกมาดู ก็พบว่า ไฟเริ่มลุกไหม้ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลเมืองเมืองปัก และพื้นที่ใกล้เคียงให้มาช่วยระงับเหตุ แต่ไฟก็โหมไหม้อย่างรวดเร็ว ชาวบ้านพากันหนีตายกันจ้าละหวั่น โชคดีที่ไม่ลามไหม้ร้านของตน

ด้านนางหนูริ้ว เกยุรพันธุ์ อายุ 88 ปี ญาตินางศรีวรรณซึ่งมีบ้านติดกัน บอกว่า ช่วงเกิดเหตุ นางศรีวรรณ บอกว่าจะเข้าไปทำกับข้าวในครัว สักพักได้ยินเสียงเหมือนเสียงแก๊สระเบิดติดต่อกัน 2 ครั้ง แล้วมีควันลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว ชาวบ้านจึงช่วยกันนำตนออกมา หลังจากนั้นก็มีเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อนบ้านรีบโทรศัพท์แจ้งยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองให้เร่งเข้ามาดับเพลิง

เจ้าหน้าที่ฯ ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง นานกว่า 45 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ คาดว่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท

โดย-ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ