วันที่ 8 เมษายน 2565 เวลา 18.00 น ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง ชาดา เสสะเวช สารวัตร กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (สว.กก.ดส.บช.น.) และตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.ดส.บช.น. ติดตามจับกุมนายสมภพฯ อายุ 44 ปี และนายปัญญาพรฯ อายุ 54 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง 6 กระบอก อาวุธปืนสั้นอัดลมแรงดันสูง 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 ประมาณ 10,000 ลูก อุปกรณ์ส่วนควบชนิดต่างๆ ที่ใช้ประกอบขึ้นเป็นอาวุธปืนกว่า 1,000 รายการ เช่น แท่งอลูมิเนียม (ใช้ผลิตชุดลั่นไก), ลำกล้องปืน, อุปกรณ์ท่อลดเสียง (ไซเรนเซ่อร์),โก่งไกปืน,พานท้ายปืน, กล้องช่วยเล็งปืน,ด้ามปืน ฯลฯ เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแส การลักลอบผลิตอาวุธปืน ชนิดอัดลมแรงดันสูง แบบ PCP: Pre-Charged Pneumatic ขนาดเบอร์ 2 ( .22 นิ้ว หรือ 5.55 มิลลิเมตร) ซึ่งถือเป็นอาวุธปืนตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ เนื่องจาก อาวุธปืนดังกล่าวสามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ หรือเฟซบุ๊คในชื่อ “แสงแดด สายลม” และแฟนเพจในชื่อ “ลมไทย” โพสต์ประกาศให้แก่ลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ชุดสืบสวนพบว่า นายปัญญาพร เป็นผู้ทำผลิตขึ้นมา จัดส่งให้กับทางลูกค้า ในรูปแบบพัสดุกับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน
การสืบสวนขยายผล ทำให้ทราบแหล่งผลิต ตั้งอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 2 ต.ลดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มี นายสมภพ ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อว่า “เก้ อล็อต” และ “Tujunaochar Prayut” ทำหน้าที่เป็นแอดมิน ในการนำรูปอาวุธปืนที่ นายปัญญาพร ผลิตขึ้นมา มาทำการลงประกาศขายในเพจเฟซบุ๊ก ตำรวจ ดส. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเข้าจับกุมตัวบุคคลดังกล่าวทั้ง 2 ได้
นายปัญญาพร และนายสมภพ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันทำ และผลิตอาวุธปืน ขายทางเพจเฟซบุ๊ก มานานกว่า 5 ปี โดยจะจำหน่ายอาวุธปืนดังกล่าวในราคากระบอกละ 12,000-26,000 บาท ด้วยความชื่นชอบในการชอบเล่นอาวุธปืน และเคยรับชมการผลิตจากยูทูป ซึ่งโดยปกติ นายสมภพ ประกอบอาชีพรปภ. จะทำหน้าที่ดูแลเพจซื้อขายโอนเงิน และนายปัญาพร เป็นฝ่ายผลิต เบื้องต้น ได้นำต่อพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า อาวุธปืน ชนิดอัดลมแรงดันสูง แบบ PCP จัดเป็นอาวุธปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490” ผู้ที่จะมีไว้ในความครอบครอง ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตจาก นายทะเทียนท้องที่ ตามกฎหมาย
ดังนั้น หากบุคคลใดมีไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 - 20,000 บาท ส่วนผู้ทำการค้าอาวุธปืนดังกล่าว ก็จะต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 2 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 - 40,000 บาท