เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
7 เมษายน 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม ศบค. ว่า ในวันพรุ่งนี้(8 เม.ย.) จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยเราพยายามผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งกรมควบคุมโรคก็จะมีการเสนอหลายเรื่อง อาทิ การเข้าประเทศ เดิมที่เรายกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง เหลือเพียงตรวจเมื่อถึงไทย ก็จะมีการเสนอว่าให้เปลี่ยนเป็นตรวจด้วย ATK แทน เพื่อความสบายใจของประชาชน
ทั้งนี้ หากเราผ่านช่วงสงกรานต์ไปด้วยดี ก็แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจของประชาชนต่อโรคโควิด-19 ปรับตัวที่จะอยู่อย่างปลอดภัย เราก็จะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้น
“สิ่งสำคัญคือหากเราฉีดวัคซีนครอบคลุม กลุ่ม 608 และย้ำใน กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้เราผ่านความเสี่ยง และผ่านเทศกาลสงกรานต์ไปได้อย่างสวยงาม ดังนั้น ขอให้ลูกหลานที่กลับบ้านไป ขอให้พาผู้ใหญ่ในบ้านได้รับวัคซีน เพื่อความปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 เป็นเรื่องสำคัญมาในช่วงนี้ เพื่อลดการติดเชื้ออาการรุนแรง และเสียชีวิต ซึ่ง ปัจจุบันในจำนวนคนที่เสียชีวิตจากโควิด นั้น มากกว่า 90 % คือกลุ่มเสี่ยง 608 จากการสอบถามไปยังจังหวัดพบว่าคนที่อยากฉีดวัคซีนนั้นต่างก็มาฉีดวัคซีนกันครบแล้ว แต่คนที่ยังไม่ฉีดเลย คือคนที่ปฏิเสธวัคซีนตั้งแต่แรก
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนกล่มนี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุให้มากขึ้น ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์รณรงค์ “ไม่ฉีดน้ำ แต่ฉีดวัคซีน”
“ จะมีข้อสั่งการถึงสถานพยาบาลในสังกัด สธ.ทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมบริการวอล์กอินผู้มาฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ และให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด ผอ.รพ.ทุกแห่ง และกรมควบคุมโรคจัดเตรียมวัคซีนให้พร้อม ”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ช่วงสงกรานต์นี้มีการพบปะผู้คนมาก มีการกินเลี้ยงมาก คาดว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ตัวที่จะมาช่วยปิดความเสี่ยงคือวัคซีน หลังสงกรานต์ก็จะดีขึ้น จึงขอความร่วมมือประชาชน หากประชาชนปฏิบัติตนตามที่สธ.แนะนำก่อนเดินทางกลับ ประเทศไทยจะก้าวข้ามจุดเสี่ยงที่สุด
ทั้งนี้ สงกรานต์น่าจะเป็นเทศกาลใหญ่สุดท้ายแล้ว หากดูสถิติ 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อพ้นสงกรานต์ไปด้วยดี จะมีปัญหาอีกครั้ง คือเทศกาลปีใหม่เลย ดังนั้น 8 เดือนที่เหลือ ก็จะมีการบริหารจัดการเรื่องโควิดดีขึ้นเรื่อย ๆ