กระทรวงต่างประเทศของจีนส่งสัญญาณเตือนถึงสหรัฐฯ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางถึงไต้หวันในวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง เธอจะเป็นประธานสภาสหรัฐฯ คนแรกที่เยือนไต้หวันขณะยังดำรงตำแหน่งนับจากปี 2550 ที่นิว กิงต์ริช ประธาน ส.ส.สังกัดพรรครีพับลิกันเยือนไต้หวัน และพบปะกับประธานาธิบดี ลี เต็ง-ฮุย ในขณะนั้น
จ้าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงวันนี้ (7 เม.ย.) ว่าจีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการทุกรูปแบบระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวัน และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกกำหนดการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี มิฉะนั้นสหรัฐฯ จะต้องเผชิญผลลัพธ์จากการเยือนดังกล่าว
แม้สำนักงานของเพโลซี และกระทรวงต่างประเทศของไต้หวัน ยังไม่ยืนยันข่าวนี้ แต่สื่อบางสำนักของญี่ปุ่น และไต้หวัน รายงานว่า เธออาจแวะเยือนไต้หวันในวันอาทิตย์ หลังการเยือนญี่ปุ่นโดยสื่อญี่ปุ่น รายงานว่า เดิมเธอมีกำหนดเยือนเกาหลีใต้ หลังเสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่น แต่เปลี่ยนใจจะไปเยือนกรุงไทเปของไต้หวันแทน
วันที่ 10 เม.ย.จะเป็นวันครบรอบ 43 ปีที่สหรัฐฯ ลงนามในกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน ที่กำหนดแนวทางความสัมพันธ์ระหว่างกัน แม้ไม่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบ และมีคำมั่นสัญญาจากสหรัฐฯ ที่จะจัดหาความช่วยเหลือแก่ไต้หวันเพื่อปกป้องตัวเอง
เพโลซีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งวิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีนมาอย่างมายาวนานพบหารือผ่านระบบวิดีโอกับรองประธานาธิบดีวิลเลียม ไล่ ของไต้หวันระหว่างที่เขาเยือนสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือน ม.ค.
เพโลซีเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่อยู่ในตำแหน่งอาวุโสสูงสุด โดยอยู่ในลำดับที่ 2 รองจากรองประธานาธิบดี ที่สามารถรักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีได้ เมื่อตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีว่างลงพร้อมกัน