ณ สิ้นเดือนเมษายนนี้ กรมธรรม์ประกันภัยโควิดเจอจ่ายจบจะทยอยหมดอายุการคุ้มครองและจะสิ้นสุดทุกกรมธรรม์ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับยอดเคลมประกันภัยโควิดสะสมตั้งแต่ ปี 2563-15 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 5.18 หมื่นล้านบาท เป็นยอดเคลมเจอจ่ายจบ 4.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือ 9.8 พันล้านบาท เป็นยอดเคลมค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ จากการประกันภัยโควิดทั้งระบบที่มีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยสะสม 20.55 ล้านฉบับ เบี้ยประกันภัยสะสม 1.09 หมื่นล้านบาท
เลขาธิการ คปภ. ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีบริษัทประกันโควิดที่เป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมต่ออุตสาหกรรมประกันภัย
ส่วนกรณีสินมั่นคงประกันภัย ซึ่งอยู่ในกลุ่มได้รับมาตรการผ่อนผัน ซึ่งคปภ. จะติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
หากโอมิครอนยังร้ายแรงขึ้นทำให้วิธีการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ คปภ. จะหาวิธีการใหม่ดูแลเพื่อลดผลกระทบ เพราะสถานการณ์ของสินมั่นคงแตกต่างจากบริษัทอื่น แม้จะมีกรมธรรม์ประกันภัยโควิดเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ถือว่าอยู่ในเฟสสุดท้ายแล้ว และเมื่อถึงสิ้นเมษายนานี้กรมธรรม์สัดส่วนกว่า 90% จะสิ้นสุดการคุ้มครอง
ส่วนบริษัท อาคเนย์ประกันภัย และไทยประกันภัย ค่อนข้างหนักใจ เพราะกรมธรรม์ประกันภัยโควิดเจอจ่ายจบที่ยังมีความคุ้มครองอยู่มีประมาณ 1.17 ล้านกรมธรรม์ และในเดือนพฤษภาคมนี้ มีความเสี่ยงที่ยอดเคลมจะปรับตัวสูงขึ้นตามยอดผู้ติดเชื้อ เพราะจะทยอยสิ้นสุดการคุ้มครองในเดือนมิถุนายน 2565 โดยทั้งสองบริษัทมีสินไหมประกันภัยโควิดค้างจ่ายประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด คปภ.เสนอขอแก้ไข พรบ.ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยให้อำนาจนายทะเบียนดำเนินการเอาผิดลงโทษเข้มข้นมากขึ้น เช่น มาตรการลงโทษทางอาญาและเพ่งกับกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทประกันที่มีส่วนบริหารงานผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหาย เป็นการยกระดับกฎหมายเทียบเท่ากับสถาบันการเงิน ยังอยู่ระหว่างรอเข้าสภาฯ พิจารณาต่อไป
คปภ.คาดยอด’เคลม’ โควิดพุ่งหลังสงกรานต์
เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. สุทธิพล ทวีชัยการ ระบุ ยอดเคลมประกันภัยโควิดหลังช่วงสงกรานต์น่าจะยังปรับตัวสูงขึ้น แต่ถ้าไม่เกินตัวเลขที่คาดการณ์ก็จะไม่มีผลกระทบมาก เพราะเป็นช่วงระยะเวลาไม่นาน
ณ สิ้นเดือนเมษายนนี้ กรมธรรม์ประกันภัยโควิดเจอจ่ายจบจะทยอยหมดอายุการคุ้มครองและจะสิ้นสุดทุกกรมธรรม์ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับยอดเคลมประกันภัยโควิดสะสมตั้งแต่ ปี 2563-15 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 5.18 หมื่นล้านบาท เป็นยอดเคลมเจอจ่ายจบ 4.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือ 9.8 พันล้านบาท เป็นยอดเคลมค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ จากการประกันภัยโควิดทั้งระบบที่มีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยสะสม 20.55 ล้านฉบับ เบี้ยประกันภัยสะสม 1.09 หมื่นล้านบาท
เลขาธิการ คปภ. ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีบริษัทประกันโควิดที่เป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมต่ออุตสาหกรรมประกันภัย
ส่วนกรณีสินมั่นคงประกันภัย ซึ่งอยู่ในกลุ่มได้รับมาตรการผ่อนผัน ซึ่งคปภ. จะติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
หากโอมิครอนยังร้ายแรงขึ้นทำให้วิธีการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ คปภ. จะหาวิธีการใหม่ดูแลเพื่อลดผลกระทบ เพราะสถานการณ์ของสินมั่นคงแตกต่างจากบริษัทอื่น แม้จะมีกรมธรรม์ประกันภัยโควิดเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ถือว่าอยู่ในเฟสสุดท้ายแล้ว และเมื่อถึงสิ้นเมษายนานี้กรมธรรม์สัดส่วนกว่า 90% จะสิ้นสุดการคุ้มครอง
ส่วนบริษัท อาคเนย์ประกันภัย และไทยประกันภัย ค่อนข้างหนักใจ เพราะกรมธรรม์ประกันภัยโควิดเจอจ่ายจบที่ยังมีความคุ้มครองอยู่มีประมาณ 1.17 ล้านกรมธรรม์ และในเดือนพฤษภาคมนี้ มีความเสี่ยงที่ยอดเคลมจะปรับตัวสูงขึ้นตามยอดผู้ติดเชื้อ เพราะจะทยอยสิ้นสุดการคุ้มครองในเดือนมิถุนายน 2565 โดยทั้งสองบริษัทมีสินไหมประกันภัยโควิดค้างจ่ายประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด คปภ.เสนอขอแก้ไข พรบ.ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยให้อำนาจนายทะเบียนดำเนินการเอาผิดลงโทษเข้มข้นมากขึ้น เช่น มาตรการลงโทษทางอาญาและเพ่งกับกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทประกันที่มีส่วนบริหารงานผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหาย เป็นการยกระดับกฎหมายเทียบเท่ากับสถาบันการเงิน ยังอยู่ระหว่างรอเข้าสภาฯ พิจารณาต่อไป