ผู้การเชียงใหม่ปัดตร.เอี่ยวเรียกรับเงินคดียาเสพติด

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “พิจิตร ทินนัง” ได้โพสต์คลิปการสนทนาระหว่าง ลูกสะใภ้ กับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง กรณีเรียกเงินเพื่อดำเนินการวิ่งเต้นให้ลูกชาย หลุดจากคดียาเสพติด โดยเรียกรับเงินค่าดำเนินการจำนวน 700,000 บาท แต่ครอบครัวไม่มีเงินจำนวนดังกล่าว จึงเกรงว่าลูกชายอาจจะถูกเพิ่มข้อกล่าวหา และ ไม่ได้รับความเป็นธรรม

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากคลิปที่มีการแชร์กันมาเป็นจำนวนมาก และมีการพาดพิงถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องที่มีการแนะนำให้ติดต่อกับบุคคลที่สามารถช่วยในเรื่องของคดีความได้นั้น ได้สอบถามไปยัง สภ.แม่ปิง เจ้าของพื้นที่แล้ว จากเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการจับกุมผู้ต้องกาคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้จำนวนของกลางยาเสพติดประมาณ 5,000เม็ด  หลังจากนั้นได้มีการสอบสวนขยายผลและออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม

โดยทางสภ.แม่ปิง ได้เข้ากับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวเข้ามาที่สภ.แม่ปิงเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ซึ่งได้มีความพยายามที่จะยื่นประกันตัวที่สภ.แม่ปิง แต่ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งว่า เป็นคดียาเสพติดที่มีจำนวนมากจึงคัดค้านการประกันตัว เบื้องต้นทราบว่ามีการติดต่อให้นักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวมายื่นขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนกระทำอย่างละเอียดรอบครอบ

ส่วนคลิปเสียงที่ระบุว่าได้เบอร์โทรศัพท์บุคคลหนึ่งซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่น มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทราบจากชุดจับกุมว่า มีการติดต่อกันเอง ก่อนที่จะมาพูดคุยกับพนักงานสอบสวนที่สภ.แม่ปิง ซึ่งต้องสอบถามทางพ่อของผู้ต้องหาอีกครั้งว่าทำไมถึงอ้างว่าได้เบอร์โทรศัพท์มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า บ้านของพ่อผู้ต้องหา กับบ้านของนักการเมืองท้องถิ่นอยู่ไม่ไกลกันนัก เชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันบางประการ

ในส่วนของการสอบสวนนั้น ได้เรียกสำนวนการสอบสวนทั้งหมดมาดูแล้ว ขอยืนยันว่าคดีนี้ทำอย่างตรงไปตรงมาก มีพยานหลักฐานในสำนวนแน่นหนา ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ขอให้ไม่ต้องกังวลในทุกคดีที่เกิดขึ้นยืนยันว่า ไม่มีการวิ่งเต้น ไม่มีการเปลี่ยนสำนวนการสอบสวน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เรียกสำนวนมาตรวจดูแล้วเป็นที่เรียบร้อยพบว่าสำนวนมีความครบถ้วน

อย่างไรก็ตามอาจจะมีการเชิญผู้ที่โพสต์ข้อมูลลงในสื่อโซเชียลเข้ามาพูดคุยก่อนว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไร อยากให้พูดความจริงอย่านำเอาอคติความไม่พอใจส่วนตัว ไปพูดคุยกับคนอื่นเพื่อหวังผลประโยชน์ อาจทำให้ผู้ที่ถูกพูดถึงได้รับความเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับความเสียหาย ส่วนนักการเมืองท้องถิ่น ที่กล่าวอ้างว่าสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งไม่ฟ้องนั้น ต้องเชิญมาพูดคุยสอบถามในรายละเอียดอีกครั้ง

ข่าว/ภาพ : นิศานาถ  กังวาลวงศ์ ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ