7 เมษายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" แนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับสงกรานต์ ระบุว่า ทะลุ 494 ล้าน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,183,978 คน ตายเพิ่ม 3,314 คน รวมแล้วติดไปรวม 494,999,056 คน เสียชีวิตรวม 6,190,368 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรเลีย เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 87.33 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 76.73 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 38.72 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 28.45
สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก
อัพเดตจากองค์การอนามัยโลก
จากรายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก WHO Weekly Epidemiological Update วันที่ 5 เมษายน 2565 สถิติจำนวนติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ล่าสุดของทั่วโลกนั้นลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 16% และจำนวนเสียชีวิตลดลง 43% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แต่หากดูข้อมูลของไทยรายสัปดาห์จาก Worldometer พบว่าจำนวนติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3% (ยังไม่ได้รวม ATK) และจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 19%
สายพันธุ์ที่ระบาดทั่วโลก
WHO รายงานว่าล่าสุดยังคงเป็นสายพันธุ์ Omicron ครองการระบาดทั่วโลก 99.8% ทั้งนี้สายพันธุ์ Omicron นั้น พบว่าเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่ครองสัดส่วนการระบาดหลัก มากถึง 93.6% ส่วนสายพันธุ์ย่อยอื่นนั้นน้อยลงมาก เช่น BA.1.1 มีเพียง 4.8% ทั้งนี้ BA.1 และ BA.3 มีน้อยกว่า 0.1%
เรื่องที่หลายคนสนใจเกี่ยวกับสายพันธุ์ผสม หรือ recombinant นั้น ขณะนี้มีการติดตามอยู่หลายตัว เช่น
XD (พันธุ์ผสมระหว่างเดลต้า AY.4 และ Omicron BA.1) ดูจะมีการแพร่ค่อนข้างจำกัดและสมรรถนะในการแพร่นั้นไม่ได้มากไปกว่าสายพันธุ์ที่มีการระบาดอยู่เดิม
XE (พันธุ์ผสมระหว่าง Omicron BA.1 และ BA.2) พบครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรวันที่ 19 มกราคม 2565 ก็กำลังมีการติดตามประเมินอยู่ โดยข้อมูลปัจจุบันชี้ว่ามีสมรรถนะในการแพร่มากกว่า BA.2 ราว 10% แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน (อ่านรายละเอียดที่นี่)
สำหรับไทยเรานั้น การระบาดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยังคุมไม่อยู่
คำแนะนำสำหรับสงกรานต์ที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้า
1. ควรฉลองสงกรานต์อยู่กับบ้าน ไม่ตะลอนท่องเที่ยว ไม่ร่วมกิจกรรมรดน้ำสาดน้ำประแป้งนอกบ้าน
2. หากจำเป็นต้องเดินทางกลับไปต่างจังหวัด หรือไปหาญาติพี่น้องที่อยู่ต่างบ้านกัน ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
- เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ตะลอน ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 3-5 วัน
- ก่อนเดินทางสัก 1-2 วัน ควรโทร ถามสารทุกข์สุกดิบ กับคนที่อยู่ปลายทางว่าทุกคนสบายดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย และประะเมินตนเองด้วย หากมีใครมีอาการไม่สบายใดๆ แม้เล็กน้อย ก็ควรงดเดินทางไปพบปะกัน
- วันเดินทาง ควรตรวจ ATK ตนเอง หากเป็นผลบวก ก็หยุดแผนเดินทาง
- ออกนอกบ้านควรใส่หน้ากากเสมอ เดินทางตามแผนที่กำหนด ไม่เฉไฉตะลอนหลายที่ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและนำไปแพร่ให้คนที่ปลายทาง
- การไปกราบสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อแม่ปู่ย่าตายายนั้น ควรเว้นระยะห่างก็จะปลอดภัยกว่า แต่หากจะไปกอดหรือคลุกคลีใกล้ชิด ถ้าใส่หน้ากากได้จะดีกว่า และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนไปสัมผัสกัน
- การกินข้าวสังสรรค์กันในหมู่สมาชิกในครอบครัวนั้น ควรนั่งห่างกันกว่าปกติ และเลือกนั่งกินดื่มในที่โล่ง ระบายอากาศดี
- หลังเสร็จกิจกรรมวันหยุดยาว ควรสังเกตอาการผิดปกติ และควรตรวจ ATK อีกครั้งหลังกลับมา
- ในกรณีของคนที่กลับมาจากการเดินทาง แต่มีสมาชิกในบ้านที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย หากแยกจากกัน ไม่สุงสิงกันในช่วง 3-5 วันหลังกลับมาก็จะปลอดภัยกว่า
การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้น ไม่ได้จบแค่เป็น รักษา แล้วหาย...แต่มีโอกาสเกิดปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ที่จะบั่นทอนสมรรถนะในการดำรงชีวิตและการทำงาน และส่งผลให้เกิดภาวะทุพลภาพหรือโรคเรื้อรังได้
และที่สำคัญคือ โควิด...ติด...ไม่ใช่แค่คุณ บางคนติดแล้วไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่บางคนติดแล้วป่วยรุนแรงหรือตายได้ ดังที่เห็นจากสถิติรายวัน
ขอให้ปลอดภัยไปด้วยกันทุกคน...