วัยรุ่นยิงสนั่นกลางงานบุญประจำปี เจ็บ 2

พ.ต.ท.เทิดภักดิ์  ศุภษร  สารวัตรเวรสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี  ได้รับแจ้งทะเลาะวิวาท ด้านข้างวัดหาดสวนสุข เทศบาลเมืองวารินชำราบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงหลายรายจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ  พร้อม พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ  พ.ต.ท.รักเกียรติ  แย้มบางยาง  รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.วารินชำราบ  ชุดสายตรวจ 191 ชุดสืบสวนนอกเครื่อง  เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่นและชาวบ้านกว่า 50 คน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชี้กองเลือดจุดเกิดเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง สอบถามพยานมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ นายยงยุทธ์ บ้านแสน อายุ 37 ปี ถูกยิงที่หางคิ้วขวาได้รับบาดเจ็บ  และนายเกรียงไกร  มาลุน  อายุ  32 ปี  ถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณตาด้านซ้าย แผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลวารินชำราบ ส่วนที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 และ 9 ม.ม.ตกอยู่จำนวน 5 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่กำลังแห่กันหลอนนำเงินเข้าบำรุงวัดบ้านหาดสวนสุข โดยมีการจ้างรถแห่ติดเครื่องขยายเสียงใช้นำขบวนต้นกันหลอน เมื่อมาถึงข้างวัดปรากฏว่า รถเครื่องเสียงไม่ยอมขยับเดินหน้า จากนั้นทำให้กลุ่มคนเจ็บเดินเข้ามาบอกให้เคลื่อนรถไปข้างหน้าทำให้กลุ่มวัยรุ่นมาจากชุมชนวัดใต้ เทศบาลนครอุบลราชธานี  กำลังฟ้อนรำอยู่หน้ารถแห่ไม่พอใจ เข้ามารุมตีและใช้ปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง 
นางสาว สิริกร บุญจันทร์ อายุ 40 ปี พี่สาวนายยงยุทธ์ เปิดเผยว่า ในขณะที่ตีกันตนไม่เห็นเหตุการณ์ รู้เพียงแต่ว่ามีการตีกันอยู่ด้านหน้าจึงได้วิ่งหานายยงยุทธ์  น้องชายพบว่าถูกยิงนอนแน่นิ่งอยาข้างทางแล้ว  ส่วนผู้ก่อเหตุตนรู้เพียงว่าเป็นคนอยู่หาดวัดใต้ฝั่งอำเภอเมืองอุบลราชธานี ก่อนจะหลบหนีก็ไล่ทำร้ายกลุ่มเพื่อนของน้องชายได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน โชคดีระหว่างที่เกิดเหตุชาวบ้านสามารถถ่ายภาพคนก่อเหตุเอาไว้ได้
 

อย่างไรก็ตามสาเหตุของการยิงกันในครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีสาเหตุอื่นใดอีกหรือไม่ถึงต้องยิงกันแบบไม่เกรงกลัวสายตายประชาชนที่ร่วมขบวนแห่ดังกล่าว  ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพผู้ก่อเหตุแล้วซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนติดตามจับตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไปข่าวโดย-เกียรติรัตน์  ชัยสกุลวงค์
คลิปภาพ Noom Sarunyu