รอง ผบช.น. เรียกประชุมคดี ตร. รีดเงินนักพนันออนไลน์ พบมือรีดระดับสารวัตร

ความคืบหน้ากรณีโซเชียลแชร์โพสต์ของ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหญิงสาวรายหนึ่ง ที่เล่นพนันได้เงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์เกือบ 2 ล้าน แต่ภายหลังมีชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ ขอตรวจค้นและอุ้มตัวหญิงสาวคนดังกล่าว พร้อมสามีและ ลูกวัย 11 ขวบ ขู่จนยอมให้เงิน 400,000 บาท และพระหนึ่งองค์ ซึ่งภายหลังตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 คนโดยพบเป็นตำรวจจริง เบื้องต้น พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สั่งให้ผู้ต้องหาออกจากราชการไว้ก่อน (อ่านข่าว) 

ล่าสุดวันนี้ (1 เม.ย.) พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 4 ตำรวจไซเบอร์ เดินทางมาประชุมคดีดังกล่าวที่ สน.บางนา โดย พล.ต.ต ไตรรงค์ เผยภายหลังการประชุมว่า คดีนี้ผู้เสียหายแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 25 มี.ค. โดยระบุว่าเหตุเกิดวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุมี 15 คนแต่งกายชุดไปรเวท ใช้รถยนต์ 7 คัน ได้อุ้มพาผู้เสียหายกับครอบครัวรวม 3 คน ไปจากร้านอาหารในปั๊มน้ำมันย่านอุดมสุม เพื่อพาไปกรรโชกทรัพย์ อ้างว่า มาทวงเงินคืนให้กับเว็บพนัน

ก่อนจะพาตระเวนไปตามจุดต่าง ๆ รวมทั้งบ้านญาติผู้เสียหาย และบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อเอาทรัพย์สิน จนผู้เสียหายต้องยอมอ้างว่า จะนำเงินไปมอบให้ในวันรุ่งขึ้น คนร้ายจึงยอมปล่อยตัวประมาณเที่ยงคืน และนัดหมายส่งมอบทรัพย์สินด้านนอก สภ.บางแก้ว เบื้องต้นผู้เสียหายจึงได้แจ้งความข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกทรัพย์

"มีประเด็นต้องสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมตำรวจจึงได้ประสานนัดหมายผู้เสียหายเข้าให้ปากคำวันนี้ เวลา 10.00 น. แต่ล่าสุดผู้เสียหายได้ส่งข้อความผ่านทางไลน์มาขอเลื่อนให้ปากคำออกไปก่อน"
 

สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 15 คน ตำรวจพิสูจน์ทราบตัวได้แล้วบางส่วน และในจำนวนนี้มีชื่อเจ้าพนักงานตำรวจจริงในบันทึกการให้ถ้อยคำ 4 คน โดยเป็นบันทึกที่ทางตำรวจผู้ก่อเหตุจัดทำขึ้นและนำมามอบให้พนักงานสอบสวน สน.บางนา เพราะอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ และในบันทึกได้ลงชื่อตำรวจสังกัดตำรวจไซเบอร์ 2 คน ตำแหน่งสูงสุดระดับสารวัตร , อีก 2 คนสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ซึ่งมีชื่อแต่ไม่ลงลายมือชื่อ อีกทั้งตำรวจที่ก่อเหตุอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้รับเงินจากผู้เสียหาย

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ยืนยันพฤติการณ์ทวงเงินลักษณะนี้ เป็นความผิด เพราะตำรวจไม่มีหน้าที่รับใช้เว็บพนัน ดังนั้นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือไม่เป็นตำรวจก็ตาม โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าตำรวจที่ก่อเหตุมีหน้าที่สืบสวนเว็บพนัน หรือเกี่ยวข้องกับเว็บพนันหรือไม่ และคนที่มีพยานหลักฐานชัดเจน ก็จะให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป ไม่มีการช่วยเหลือด้วย

"ส่วนเงินจำนวน 4 แสนบาทและพระเลี่ยมทองยังอยู่ระหว่างการติดตาม โดยทราบว่าอยู่กับ 1 ในกลุ่มคนร้าย โดยหลังเกิดเหตุทางด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้กำชับให้ขยายผลดำเนินคดีกับเว็บพนันดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการอายัด และปิดเว็บ แต่ต้องยอมรับว่าเว็บพนันเหล่านี้มีมากกว่า 1 เซิฟเวอร์ เมื่อปิดแล้วอาจมีการกลับมาเปิดใหม่ได้ในวันถัดไป"
 

ด้าน ทนายตั้ม เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้เสียหายยังไม่สะดวกที่จะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีการแจ้งกับพนักงานเจ้าของคดีไปแล้วว่า ขอเลื่อนการเข้าพบออกไปก่อน และยังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นวันไหน