เป็นข่าวดีเล็ก ๆ วันนี้ (28 มี.ค.) สำหรับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ที่พรุ่งนี้ (29 มี.ค.) ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์จะมีการปรับลดลงอีกลิตร 50 สตางค์ (อ่านข่าว)
ขณะที่ในส่วนของราคาน้ำมันดีเซล ที่ภาครัฐยังคงมาตราการตรึงราคาไว้ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาท ก็อาจจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ เช่นกัน โดยมีรายงานจากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในวันนี้ ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้มีมติปรับลดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลลงเหลือ 9.77 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ 10.16 บาทต่อลิตร ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันโลกปรับลดลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันโลกยังคงทรงตัวระดับสูง เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดย ณ วันที่ 28 มี.ค. 65 เวลาประมาณ 14.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 111.82 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 0.77 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 109.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 4.81 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 116.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 4.49 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
และเมื่อพิจารณาค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน จากข้อมูลสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้อ้างอิงค่าการตลาดดีเซล ณ วันที่ 28 มี.ค. 65 ไว้ที่ 1.61 บาทต่อลิตร แต่ค่าการตลาดจริงที่ผู้ค้าดีเซลได้รับอยู่ที่ 1.79 บาทต่อลิตร ซึ่งปรับสูงขึ้นจากวันที่ 25 มี.ค. 65 ที่อยู่ระดับต่ำเพียง 0.33 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่ควรได้ 1.5-2 บาทต่อลิตร)
ดังนั้นหากราคาน้ำมันโลกปรับลดลงดังกล่าว ประกอบกับค่าการตลาดอยู่ในระดับปกติแล้ว คาดว่าเร็ว ๆ นี้ อาจมีการปรับลดราคาน้ำมันลงได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกเป็นหลัก เพราะยังผันผวนและทรงตัวระดับสูงเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ต่อเนื่องอยู่ โดยปัจจุบันราคาดีเซลทุกค่ายยกเว้นเชลล์อยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร ส่วนเชลล์อยู่ที่ 30.34 บาทต่อลิตร
สำหรับในส่วนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 20 มี.ค. 65 กองทุนฯ ยังคงประสบปัญหาเงินไหลออกต่อเนื่อง โดยติดลบรวม 32,831 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 4,028 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 28,803 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กบน. เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2565 ได้ขยายกรอบวงเงินที่จะใช้ชดเชยราคา LPG รวมไว้ที่ 33,000 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ 29,000 ล้านบาท เนื่องจากแม้ราคา LPG จะปรับขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัม หรือจากราคา 318 บาท เพิ่มเป็น 333 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 นี้ แต่ราคา LPG โลกยังทรงตัวสูงระดับ 800 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน หรือราคา LPG ที่แท้จริงอยู่ที่กว่า 600 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ดังนั้นกองทุนฯ ยังต้องพยุงส่วนต่างราคาดังกล่าวต่อไปจนถึงเดือน มิ.ย. 65 จากนั้นต้องรอนโยบายภาครัฐว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC)