นักธุรกิจหัวใสนำรถเก่าดัดแปลงเป็นรถไฟฟ้าประหยัดกว่า 7 เท่า
เชียงใหม่ -กระแสฮิตใช้รถไฟฟ้ากำลังมาแรง นักธุรกิจหนุ่ม รับดัดแปลงรถเก่าให้เป็นรถไฟฟ้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 7 เท่า ระบุหลังราคาน้ำมันเริ่มพุ่งสูงมีลูกค้าสนใจวันละไม่ต่ำกว่า 20 ราย เผยอนาคตเตรียมพัฒนาให้สามารถสลับใช้ได้ทั้ง 2 ระบบ ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 นายภูดิท คีตโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจพี โมโต คลาสสิค จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสความต้องการรถไฟฟ้ามีมากขึ้น ทางบริษัทได้เริ่มนำรถเก่าทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาดัดแปลงให้เป็นรถไฟฟ้า เพื่อประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น โดยเฉลี่ยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 7 เท่า
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการมาประมาณ 1 ปี แต่เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้นในช่วงนี้ ส่วนอุปกรณ์ที่นำมาดัดแปลงทั้งมอเตอร์และแบตเตอรี่สั่งนำเข้ามาจากจีน ที่ผ่านมาได้ทำการดัดแปลง และส่งมอบรถให้กับลูกค้ารถไปแล้วประมาณ 8-9 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์
ขณะเดียวกัน ยังมีรถทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ที่รอเข้ามาทำการดัดแปลงอีกจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 20 คัน โดยแต่ละวันจะมีการโทรศัพท์เข้ามาเพื่อติดต่อสอบถามการดัดแปลงรถให้เป็นรถไฟฟ้าวันละไม่ต่ำกว่า 20 ราย ทั้งนี้ ถือได้ว่า เป็นเจ้าแรกในจังหวัดเชียงใหม่ที่ดำเนินการดัดแปลงรถเก่าให้กลายเป็นรถไฟฟ้า โดยค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ให้เป็นรถไฟฟ้าเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000- 60,000บาท ส่วนรถยนต์เริ่มต้นที่ 150,000 -450,000 บาท ทั้งนี้อยู่กับขนาดของรถ
ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่สามารถชาร์จจากไฟบ้านได้ ขณะเดียวกันได้ดัดแปลงให้สามารถนำไปชาร์จกับสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการตามสถานที่ต่างๆได้ ส่วนเวลาในการชาร์จขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ เริ่มต้นตั้งแต่ 2 -6ชั่วโมง ระยะทางสามารถวิ่งได้ตามขนาดแบตเตอรี่ประมาณ 50 - 150 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทั้งนี้ในการดัดแปลงให้เป็นรถไฟฟ้าจะยังรูปแบบเดิมของรถไว้ให้ได้มากที่สุด โดยคำนึงถึงการใช้งานง่ายและสะดวกให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ทำการดัดแปลงรถสี่ล้อแดงที่มีอยู่เดิมให้เป็นรถไฟฟ้า ถือเป็นต้นแบบคันแรก ใช้งบประมาณในการดัดแปลงประมาณ 350,000 บาท โดยหวังจะให้เป็นรถที่ใช้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร เพื่อลดมลพิษ ประหยัดพลังงาน ปลอดควัน ปลอดเสียง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดลองใช้งาน โดยได้นำมาวิ่งในเมืองเชียงใหม่ได้ประมาณ 6 เดือน และกำลังอยู่ระหว่างการเปรียบเทียบกับการนำรถเก่ามาดัดแปลง หรือการซื้อรถใหม่มาเพื่อใช้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร
ในอนาคตจะพัฒนารูปแบบเพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งระบบไฟฟ้าและระบบน้ำมัน เพื่อให้เป็นทางเลือกหากต้องเดินทางไกลและไม่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าในบางพื้นที่ สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบน้ำมันได้ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล และแนวทางในการพัฒนารูปแบบ ขณะเดียวกัน ยังได้รับความสนใจจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ติดต่อขอให้ถ่ายทอดการดัดแปลงรถเก่าให้เป็นรถไฟฟ้ากับนักศึกษา เพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดต่อยอดในสถาบันการศึกษาแบบรุ่นต่อรุ่น โดยทางบริษัทพร้อมและยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษาที่ติดต่อเข้ามาเพื่อเรียนรู้
ข่าว/ภาพ : นิศานาถ กังวาลวงศ์ ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ