เอาจริง! "พิมรี่พาย" ฟ้อง "เพจดัง" ปมวิจารณ์ดราม่า ท้อใจเชือดไก่ให้ลิงดู

เป็นหนึ่งคนที่มีเรื่องราวดราม่าถาโถมเข้าใส่เป็นประจำ สำหรับ “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง จนดันแฮชแท็กคำว่า “#พิมรี่พาย” ขึ้นติดเทรนด์เป็นระยะ นับตั้งแต่กรณีพูดจาดูถูก “อายตา” ศรสวรรค์ ใจมั่น บิวตี้บล็อกเกอร์ ที่มีการรีวิวแป้ง PRIM ซึ่งหนึ่งในตลับแป้ง เกิดความเสียหายระหว่างขนส่ง

หรือจะเป็นเรื่องพูดผ่านไลฟ์สดคล้ายดูถูกคนกิน “ส้มตลาดนัด” ก่อนที่ตัวเธอจะทนกระแสต้านไม่ไหว ออกมากลับลำขอโทษว่า “ไม่ได้ลืมกำพืดตัวเอง แต่แค่หยอกล้อเท่านั้น” จนมาถึงเรื่องละเอียดอ่อน อย่างการพูดถึงเรื่องสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” แบบติดตลก

โดย “พิมรี่พาย” เล่นมุกว่าเป็นเมีย “วลาดีมีร์ ปูติน” ระหว่างการไลฟ์สดขายของ จนหลายคนมองว่าไม่เหมาะสม ซึ่งสุดท้ายแม่ค้าออนไลน์คนดัง ออกมาขอโทษเหมือนเดิม

กระทั่งเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา “พิมรี่พาย” เดือดแตกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด่ากราดร่ายยาว “เกรียนโซเชียล” ที่เข้ามาป่วนเรื่องยอดดูไลฟ์สดลดลง พร้อมระบุว่า “เป็นช่วงตกต่ำ” หรือ “ขาลง” หรือไม่ สลับกับการทุบโต๊ะ หรือทุบระฆังหลายครั้ง จนบรรดาแฟนคลับแสดงความเป็นห่วง

เมื่อไลฟ์สดดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป หนึ่งในสมาชิกโซเชียล ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ เพจเฟซบุ๊ก “ตุ๊ดส์review" ที่มีนายธนบัตร ชายด่าน หรือบอย เป็นเจ้าของเพจ

ครั้งนั้นทางเพจได้วิเคราะห์แยกเป็นหัวข้อ ทั้งหมด 10 หัวข้อ หนึ่งในมีเนื้อหาว่า “จากใจคนที่ชื่นชมความเก่ง และความสามารถในการสร้างฐานะ จนประสบความสำเร็จของพิมรี่พาย อย่าให้ตัวตน และอารมณ์ที่คุณมีต่อคำพูดคนอื่นมาทำร้าย ทำลายชีวิตคุณเลย สุดท้ายคำพูดของคุณกำลังกลับมาฆ่าตัวตนของคุณเอง ให้ดูไม่น่ารัก และไม่งดงาม เพียงเพราะโมโหคนใน Live แค่นั้นน่ะหรือ?” (คลิกดูโพสต์ต้นฉบับ)

ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว ทาง “พิมรี่พาย” ไลฟ์สดบอกว่า จะไล่ฟ้องคนที่เข้ามาคอมเมนท์เรื่องเหยียดคนจน ซึ่งในอดีตเคยฟ้องเป็นคดีความแล้วกว่า 7,000 คดี หลังจากนี้จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 500,000 บาท ต้องโพสต์ข้อความขอโทษ 365 วัน และต้องคลานเข่าถือพานขันธ์ 5 มาขอโทษอีกด้วย

ล่าสุดทางเพจ “ตุ๊ดส์review" โพสต์รูปภาพหมายเรียกผู้ต้องหาของตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ หลัง “บอย ธนบัตร” เจ้าของเพจ ถูก “พิมรี่พาย” แจ้งความดำเนินคดี ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือน จึงให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เวลา 13.00 น.

ทางเพจระบุข้อความอีกว่า “บอยถูก #พิมรี่พาย แจ้งข้อหาดำเนินคดี จากการวิพากษ์วิจารณ์บนเพจ ตุ๊ดส์review ที่ผ่านมา บอยคิดว่า บอยนำเสนอ fact ของเหตุการณ์ ถ้อยคำ หรือข้อความที่เกิดขึ้นจากข่าว อย่างตรงไปตรงมา ของพิมรี่พายมาตลอด ทั้งเรื่องที่เป็นประโยชน์ และเรื่องที่เป็นปัญหา โดยไม่คิดว่าตัวเองบิดเบือน และปลอมข้อมูลใดๆ ของพิมรี่พายเลย ในทุก post ยืนยันว่าไม่มีเจตนาแบบนั้น และค่อนข้างมั่นใจว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา และยินดีไปรับทราบข้อหาทุกกรณี”

บอยอยากบอกกับทุกคนว่า นี่ไม่ใช่การหาพวก หรือขอความเห็นใจอะไรจากสังคม และบอยยังคงเชื่อใน freedom of speech และเจตนาของการทำเพจนี้ โดยที่บอยไม่มีวัตถุประสงค์ร้ายต่อบุคคล หรือสังคม หรืออาฆาตมาดร้ายใครให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และใช้เพจทำร้ายผู้คน เว้นเสียแต่การวิพากษ์วิจารณ์นั้นจะไม่เป็นที่พึงพอใจ หรืออาจจะนำไปสู่ความรู้สึกขุ่นเคือง มองว่าไม่เหมาะสมต่อบุคคลนั้นๆ ซึ่งไม่อาจทราบได้

ทั้งนี้ บอยอยากส่งข้อความนี้ออกไปเพื่อบอกกับผู้คนว่า "ไม่ใช่ทุกคนที่เราสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะมันอาจจะไม่ปลอดภัยต่อตัวคุณเอง ในบุคคลที่เราไม่แน่ใจว่าแตะต้องได้หรือไม่ ก็คงเป็นบทเรียนที่คุณทุกคนได้เห็นจากเรา"

และบอยขอสื่อสารข้อความนี้บนเพจถึงพิมรี่พายโดยตรงว่า ถ้าสิ่งใดที่เราพูดแล้วทำให้เกิดความเสียหายจากเราจริงๆ เราขอโทษ และน้อมรับความผิดนั้นทุกประการ ในมุมที่ทำให้ไม่พอใจหรือขุ่นเคือง

"แต่เรายืนยันว่าเราหวังดี เชื่อว่าข้อมูลที่ส่งออกไปไม่ใช่การบิดเบือน และมีเจตนาที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาการสื่อสารตัวตน เพราะเป็นผู้ที่มีคนติดตามจำนวนมาก และเราตั้งใจอย่างมากที่จะส่งมอบเรื่องราวของพิมรี่พาย เป็นบทเรียนต่างๆ ที่สังคมได้รับ เพื่อเป็นประโยชน์แก่สังคม ในการสร้างสรรค์ตัวตน การสื่อสาร การทำตลาด และการบริหารจัดการวิกฤติ เรามีเจตนาเท่านั้นจริงๆ ไม่ใช่ความเกลียดชังตัวบุคคล และไม่เคยโกรธเกลียดตัวพิมรี่พายแต่อย่างใด"

แต่ถ้าความเสียหายกับตัวพิมรี่พายนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรา เราก็อยากให้ได้รับการทบทวนเช่นกันว่า เป็นเพราะเหตุใดจึงเสียหาย? เราจะไปรับทราบข้อกล่าวหา และมั่นใจว่าถ้าเราไม่ผิดจริงๆ เราเชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมไทยจะพิจารณากรณีที่เกิดขึ้นกับเราในทางที่เหมาะสมต่อไป ทั้งเป็นธรรมกับเรา และตัวพิมรี่พาย

เราต้องไปใช้เวลาที่สถานีตำรวจกับคดีที่เรายังไม่รู้ว่าเราผิดตรงไหน? แต่เราคิดว่า มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าการวิพากษ์วิจารณ์สามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยความเข้าใจว่า "ทำไมจึงต้องวิจารณ์? การปิดปากคน หรือเชือดไก่ให้ลิงดู เป็นเรื่องปกติใช่ไหมของประเทศนี้ ที่แตะต้องสิ่งใดได้ลำบากเหลือเกิน?!?"