บุคลากรในรพ.บ้านฝาง ขับไล่ ผอ. เผยหยาบคายทุกวัน

14 มีนาคม 2565 นายสุรชัย หล่อยดา  อายุ 51 ปี  นักจัดการงานทั่วไประดับปฏิบัติการ รพ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายคม เกตุดาว อายุ 56 ปี  หัวหน้างานรังสีวินิจฉัย รพ.บ้านฝาง และเจ้าหน้าที่ประจำ รพ.สต.พื้นที่อ.บ้านฝาง  ได้กล่าวว่า  เคยเข้ายื่นเรื่องต่อ นพ.สสจ.ด้วยตนเองมาแล้ว แต่ในครั้งนี้ เลขา นพ.สสจ.ไม่ให้พบ เพราะ นพ.สสจ.ติดราชการ จึงได้หารือกับกลุ่มเพื่อนพี่น้องในรพ.บ้านฝาง และ รพ.สต.ในพื้นที่ สรุปว่า ทำหนังสือร้องเรียน ยื่นต่อนายกเทศมนตรีตำบลบ้านฝาง  ให้เป็นคนกลางนำส่งสาส์น ต่อให้ นพ.สสจ.ขอนแก่น ให้รับทราบปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในรพ.บ้านฝาง จนทำให้บุคลากร เจ้าหน้าที่และลูกจ้าง ต้องลาออกในช่วงที่ผู้บริหารรายนี้ย้ายมาเพียง 2 ปี  มีพยาบาลลาออก 4 คน ลูกจ้าง 15 คน รวมเป็น 19 คน เนื่องจากผู้บริหาร ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ในรพ.บ้านฝาง ก็เกิดปัญหากับบุคลากรทุกระดับชั้น  เพราะกิริยาวาจาที่หยาบคาย ไม่สุภาพ มีการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพด่าทอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ที่เป็นผู้หญิงเป็นประจำทุกวัน เช่น มึง กู โง่ ห่ามึง  เหี้ย อี ผีห่าซาตาน ทำให้ตนและเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่ถูกกระทำ เกิดอาการหวาดระแวง กลัว และไม่อยากมาทำงาน และทำให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลไม่มีความสุขในการทำงาน เจ้าหน้าที่บางคนต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษา  สร้างความแตกแยก ไม่มีความสามัคคี ในองค์กร 

นอกจากนี้ผู้บริหาร ยังเบียดบังเวลาราชการไปเปิดร้านขายยาของภรรยา โดยช่วงเช้ามาจะปฏิบัติงาน 11.00น. ทุกวัน ช่วงบ่ายจะมาปฏิบัติงาน ประมาณ 14.00น.ทุกวัน  และกลับก่อนเวลา 16.30น. เป็นประจำ ซึ่งไม่มีใครกล้ายุ่ง ทั้งยังได้เบิกเงินค่าตอบแทนแพทย์สาขาพิเศษทุกเดือน แต่ไม่ปรากฎว่าได้ทำหน้าที่แพทย์ตรวจผู้ป่วยแต่อย่างใด

นายสุรชัย  กล่าวอีกว่า  หลังจากยื่นเรื่องให้นายกเทศมนตรีตำบลบ้านฝางแล้ว เชื่อว่านายกเทศมนตรีตำบลบ้านฝาง ได้นำเรื่องส่งต่อไปยัง นพ.สสจ.ขอนแก่นให้ทราบเรื่องและดำเนินการย้าย ผู้บริหารายดังกล่าวออกจาก รพ. เพราะถ้ายังขืนปล่อยไว้ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ รวมถึงลูกจ้างก็จะขาดกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่  เพราะไม่อาจจะรับอารมณ์และความหยาบกร้านของคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงรายนี้ได้  และขิยืนยันว่า สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดคือความจริง ไม่ได้กลั่นแกล้ง และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายหากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง

“ ผมร้องเรียนผู้บังคับบัญชาระดับสูง เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อตัวเอง แต่ไม่กลัว เพราะสิ่งที่ทำลงไป ทำเพื่อความถูกต้อง เรียกขวัญและกำลังใจของบุคลากรในรพ.บ้านฝางกลับคืนมา  เราทุกคนอยากได้ผู้บริหารที่คอยห่วงใยผู้ใต้บังคับบัญชา  มีน้ำใจกับทุกๆคน และต้องไม่หยาบคายเช่นนี้  ซึ่งหลังจากที่ถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้ง จึง ตัดสินใจอัดคลิปเสียงเอาไว้เป็นหลัการาฐานว่า สิ่งที่กล่าวมานั้น ไม่ได้หาเรื่องกลั่นแกล้ง แต่ทั้งหมดคือความจริง ขอเรียกร้องให้ นพ.สสจ.ขอนแก่น และกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาผู้บริหารรายดังกล่าว ออกจาก รพ.บ้านฝางโดยเร็วด้วย”

ทางด้าน นายคม เกตุดาว อายุ 56 ปี  หัวหน้างานรังสีวินิจฉัย รพ.บ้านฝาง  กล่าวว่า เรียนจบมา ก็มาบรรจุที่รพ.บ้านฝาง ทำงานมา 35 ปี ได้รับความเมตตาจากผู้บริหารทุกคน ยกเว้น ผู้บริหารรายปัจจุบัน ที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ และแทบจะไม่ออกตรวจคนป่วย เพิ่งจะมาตรวจเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา  ซึ่งเมื่อถูกด่าด้วยคำหยาบคาย ก็หมดคความอกทน  อีกทั้ง โควิดระบาดในช่วงแรก กระทรวงให้ เจ้าหน้าที่ที่เป็นด่านหน้า หรือนักรบเสื้อกาวน์ เข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด แต่ผู้บริการ ไม่ได้ส่งชื่อตนและเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานเข้ารับวัคซีนแต่อย่างใด ทุกอย่างต้องช่วยเหลือตนเอง นอกจากนี้อุปกรณ์การป้องกัน การระบาดของเชื้อโควิด ที่ทุก รพ.ควรจะมีและมอบให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รพ.บ้านฝางก็ไม่มี เพราะผู้บริหารไม่เคยสนใจ ไม่ใส่ใจ บางครั้งต้องหยิบยืม และหามาใช้เอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการยกหน่วยรังสีไปรวมกับฝ่ายแลป  แต่พูดมาจะ2 ปีแล้วก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว และหลายครั้งที่ผู้บริหารรายนี้ ใช้วาจาที่ไม่สุภาพ ผิดจากราชการหรือผู้บริหารระดับสูงของที่อื่นที่ให้เกียรติบุคลากรตัวเอง ห่วงใย มีน้ำใจกับชั้นผู้น้อย

“เมื่อผู้บริหารไม่มีน้ำใจ ไม่สุภาพ ค่าแรงก็ไม่เคยเพิ่ม และไม่ปฏิบัติงานตามที่ผู้บริหารควรจะทำ จึงได้ยื่นหนังสือลาออก ซึ่งก็มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่ ในวันที่ 2 เมษายน 2565 ที่จะถึงนี้  และขอยืนยันว่า สิ่งที่ออกมาร้องเรียนนั้น เพราะต้องกการผู้บริหารที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ มีน้ำใจกับบุคลากรในองค์กรของตัวเอง หวังว่า นพ.สสจ.ขอนแก่น จะรับฟังและพิจารณาความต้องการของบุคลากรชั้นผู้น้อย ย้ายผู้บริหารคนปัจจุบันออกไป แล้วหาคนใหม่มาแทน”

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายชัยณรงค์ มงคลศรีสวัสดิ์ ตำแหน่ง นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ  ซึ่งรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านฝาง ถึงกรณีที่ถูกบุคลากรร้องเรียนพฤติกรรมที่หยาบคาย และมีบุคลากรลาออก รวมถึงการขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่ไปนั้น นายชัยณรงค์ มงคลศรีสวัสดิ์  กล่าวว่า  ยังไม่ทราบเรื่องใดๆ  จึงไม่สามารถพูดอะไร ขอตรวจสอบในเรื่องที่ถูกร้องเรียนก่อน และหากมีการร้องเรียนจริงก็ต้องมีการพูดคุยกัน

ข่าวโดย- พรพรรณ เพ็ชรแสน