สหรัฐฯ ยกย่องไทยลงคะแนนให้รัสเซียหยุดใช้กำลังทหารกับยูเครนทันที

     วันนี้ (13 มี.ค.) นายไมเคิล ฮีท อุปทูตสหรัฐอเมริกา รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสายความมั่นคง ที่เชิญไปพบปะพูดคุยสถานการณ์ทั่วไปที่บ้านรับรองเอกอัคราชฑูตสหรัฐฯ ประจำประจำประเทศไทย โดยพูดถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ว่า นี่เป็นสงครามการรุกรานโดย “วลาดีมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ส่วนยูเครนไม่ได้เป็นภัยต่อรัสเซียเลย และมีเพียงปูตินเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่ไร้เหตุผลและการรุกรานอธิปไตยในครั้งนี้

     อุปทูตฮีท ยังกล่าวยกย่องประเทศไทยที่ร่วมกับประเทศส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงอย่างล้นหลาม ณ สหประชาชาติ ให้รัสเซียหยุดใช้กำลังทหารกับยูเครนโดยทันที ซึ่ง 141 ประเทศโหวตสนับสนุนข้อมตินี้ เน้นย้ำถึงอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ขณะที่สหรัฐฯ พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรม และไร้ความชอบธรรม ด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป
 

     นายไมเคิล ฮีท ยังชี้แจงกระเเสข่าวลือการสร้างสถานกงสุลใหญ่ ย่านธุรกิจเขตชานเมืองของ จ.เชียงใหม่  มีการขุดใต้ดินเพื่อเก็บอาวุธหรือเครื่องมือพิเศษด้านข่าวกรอง โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และเป็นหนึ่งในข่าวลืออีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ ซึ่งการก่อสร้างอาคารกงสุลแห่งใหม่ใช้งบประมาณ 280 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ดูเหมือนว่าแพงมาก

     แต่ความจริงแล้วเป็นงบที่จัดสรรมาเพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งเรื่องความหนาของกำแพง ระยะห่างจากกำแพง โดยใช้วัสดุที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงวัสดุป้องกันความร้อน มาตรฐานเหล่านี้ได้กำหนดไว้ในระเบียบของทางการสหรัฐฯ อยู่แล้ว ขณะนี้ก็มีการก่อสร้างในหลายประเทศด้วยมาตรฐานเดียวกัน ทั้งใน บอสวาน่า และนามีเบีย 

     ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นว่าควรจะมีสถานกงสุลอยู่ต่อไป เพราะเรามีชาวอเมริกันอาศัยในเชียงใหม่ถึง 1.7 หมื่นคน ขณะที่จีนมีกงสุลถึง 4 แห่ง แต่สหรัฐฯ มีแห่งเดียว ก็ต้องทุ่มเททำให้ดี ที่ผ่านมาสถานกงสุลก็มีความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย ในเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ สัตว์ป่า และยาเสพติด ซึ่งสหรัฐฯ มีหน่วยงานชื่อสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (Drug Enforcement Administration หรือ DEA) ที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานของไทย

     ส่วนอาคารกงสุลฯ เดิม เก่าแก่มีสภาพทรุดโทรม ไม่ค่อยปลอดภัย พื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก จึงตัดสินใจย้ายและก่อสร้างใหม่ โดยที่เดิมกำลังพิจารณาว่าจะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ American corner หรือ ห้องสมุด ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการตั้งศูนย์ที่ยะลา ปัตตานี มหาสารคราม แล้ว

     อุปทูตสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่า จากนี้ไปหากมีข่าวลือหรือประเด็นที่พาดพิงสหรัฐฯ ทางสถานทูตจะให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถานทูตฯ ชี้แจงเป็นกรณีไป