แม้จะมีข่าวคราวออกมาอย่างต่อเนื่อง ถึงพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในการสร้างเรื่องราวหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน รวมถึงข่าวการจับกุมปราบปราม แต่มิจฉาชีพที่หากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่นก็ยังคงไม่หมดไปจากสังคมไทย
ล่าสุด น.ส.เอ (นามสมมุติ) พยาบาลสาวแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรสงคราม ได้นำหลักฐานการโอนเงินรวมเกือบ 1 ล้านบาท เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อให้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยเปิดเผยถึงพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าขณะกำลังยุ่งอยู่กับการดูแลคนไข้ในโรงพยาบาล จึงไม่ทันตั้งตัว มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าเป็นบริษัทพัสดุต่างประเทศ FedEx ใช้โทรศัพท์หมายเลข 063-214-2756 แจ้งว่ามีพัสดุค้างที่ศุลกากรเชียงใหม่ ที่จะส่งไปประเทศจีน โดยแจ้งหมายเลขพัสดุ , ที่อยู่ผู้รับและหมายเลขกงสุลเชียงใหม่ และขณะนี้ถูกอายัดไว้ ซึ่งภายในตรวจสอบแล้วเป็นพาสปอร์ต 8 เล่ม พร้อมบัตร ATM จำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนในเสื้อผ้าจำนวน 5 ชุด
จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ทำทีต่อสายโทรศัพท์ให้ชายอีกคนที่อ้างตัวเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ยศร้อยตำรวจเอก เร่งรัดให้แจ้งความออนไลน์ และให้พูดคุยกันติดต่อผ่านไลน์โดยใช้รูปโปรไฟล์ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมข่มขู่ว่าคดีนี้เป็นคดีร้ายแรง ที่ส่งผลต่อครอบครัวได้ ทั้งยังสอบถามบัญชีธนาคาร
จากนั้นอ้างว่าบัญชีผิดปกติเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน พร้อมโอนสายให้คนร้ายอีกคนอ้างว่าเป็นสารวัตร เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ทำทีขอบัญชีธนาคาร และกดดันให้โอนเงินมาตรวจสอบทั้งหมดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ น.ส.เอ จึงโอนเงินไปให้ 5 ครั้ง เป็นเงิน 849,000 บาท เข้าบัญชี นายพงศกร มลัยสวรรค์ ของธนาคารเกียรตินาคิน โดยการพูดคุยรวมระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
หลังจากโอนเงินเสร็จสิ้น ชายที่อ้างว่าเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะใช้เวลาตรวจสอบเงิน 1-2 ชั่วโมง และห้ามปิดโทรศัพท์มือถือโดยเด็ดขาด แล้วจะโอนเงินคืนให้ ไม่นานชายดังกล่าวโทรศัพท์กลับมาอ้างว่า น.ส.เอ ปิดบังบัญชีธนาคารกสิกรไทย เงินหมุนเวียน 600,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าไม่มี บัญชีดังกล่าว แต่ชายดังกล่าวแจ้งว่าอายัดเงินทั้งหมดพร้อมส่งหมายเรียกมาทางไลน์ มีตราครุฑ ดูเป็นเอกสารทางราชการ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า เก็บเงินได้เกือบ 1 ล้านบาท ตั้งใจนำไปปลูกสร้างบ้านให้บิดา แต่เงินจำนวนนี้หายวับไปกับตา
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ประสานหน่วยงานที่เกี่ยข้อง เพื่อติดตามแก็งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป