svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

WHO กลับลำแนะ "ฉีดเข็มกระตุ้น" เน้นวัคซีน mRNA ลดป่วยหนัก เสียชีวิต

11 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"หมอมนูญ" เผยองค์การอนามัยโลก กลับลำมาแนะนำให้ทุกประเทศ เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยดชเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุ

11 มีนาคม 2565 นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือ “หมอมนูญ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” เผยถึงคำแนะนำของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster dose) เพื่อลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต มีเนื้อหาดังนี้..

 

เมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน องค์การอนามัยโลก เพิ่งจะกลับลำ แนะนำให้ประเทศต่าง ๆ เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังได้ครบโดสแล้ว (เดิมทีองค์การอนามัยโลก แนะนำให้ฉีดครบโดสก็เพียงพอแล้ว เพื่อที่จะมีวัคซีนเหลือพอแจกจ่ายให้ประเทศที่ยากจนได้เข้าถึงวัคซีน)

 

WHO กลับลำแนะ "ฉีดเข็มกระตุ้น" เน้นวัคซีน mRNA ลดป่วยหนัก เสียชีวิต

 

ข้อมูลปัจจุบัน การฉีดเข็มกระตุ้น หลังได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 3 เดือน ช่วยลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต โดยเฉพาะคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์

คนสูงอายุไทย ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น นอกจากนี้มีคนสูงอายุมากถึง 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว

 

หญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น เกือบร้อยละ 50 ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก

 

WHO กลับลำแนะ "ฉีดเข็มกระตุ้น" เน้นวัคซีน mRNA ลดป่วยหนัก เสียชีวิต

 

หมอมนูญ ย้ำว่า วิธีลดการป่วยหนัก และการเสียชีวิตที่ได้ผลดีที่สุด คือการเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนกลุ่มเสี่ยงให้ครบโดสมากที่สุดอย่างน้อยร้อยละ 90  และฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 60 

 

WHO กลับลำแนะ "ฉีดเข็มกระตุ้น" เน้นวัคซีน mRNA ลดป่วยหนัก เสียชีวิต

วัคซีนเข็มกระตุ้นควรเป็นวัคซีนชนิด mRNA (ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา) มีประสิทธิภาพสูง และมีความปลอดภัย คนที่ไม่ได้ฉีดส่วนใหญ่เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย และกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน  ปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนชนิดนี้มากเพียงพอสำหรับคนไทยแล้ว

 

วัคซีนเข็มกระตุ้นควรเป็นวัคซีนชนิด mRNA (ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา)

 

logoline