svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

"นิพนธ์"นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองครบรอบ 180 ปี

10 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิพนธ์ บุญญามณี"เป็นประธานในพิธีสมโภชเสาหลักเมืองสงขลาครบ 180 ปี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่

10 มีนาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีสมโภชเสาหลักเมืองและพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตามโครงการสืบสานอัตลักษณ์เมือสงขลา (งานวันสงขลา) ประจำปี 2565 ณ บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม อำเภอเมืองสงขลา จ.สงขลา โดยมี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และประชาชนชาวในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย

 

"นิพนธ์"นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองครบรอบ 180 ปี

 

ทั้งนี้ จ.สงขลา ได้ประกาศให้วันที่ 10 มี.ค. ของทุกปี เป็นวันที่ได้อันเชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังไว้ที่กลางเมืองสงขลา เป็น "วันสงขลา" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาเมืองสงขลาปัจจุบัน และมีเจตานารมณ์เพื่อให้คนมีถิ่นกำเนิด พักพิง ศึกษาเล่าเรียน และประกอบอาชีพทุกหนแห่งในปัจจุบันได้ตระหนักมีจิตสำนึก และนำมาซึ่งการรวมพลังสร้างความรัก ความสามัคคี ดำเนินกิจกรรมร่วมกันเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินสืบไป

 

โดยจ.สงขลาได้สืบสานเจนตนารมณ์ของ "วันสงขลา" ในการรวมพลังสร้างความรัก ความสามัคคี ดำเนินกิจกรรมร่วมกันเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยได้กำหนดจัดโครงการสืบสานอัตลักษณ์เมืองสงขลา (วันสงขลา) ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 9-11 มี.ค. 2565

 

"นิพนธ์"นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองครบรอบ 180 ปี

สำหรับเสาหลักเมืองสงขลาถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนทั้งในจ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง โดยความเป็นมาของเสาหลักเมืองสงขลา จากการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่าเมืองสงขลาย้ายสถานที่ตั้งมาแล้ว 3 ครั้ง โดยเริ่มจากเมืองสงขลาฝั่งหัวเขาแดง ซึ่งปรากฏหลักฐานทางโบราณสถาน และโบราณวัตถุหลายแห่ง แต่บ้านเมืองถูกทำลายจากภัยสงครามจนหมดสิ้น จึงย้ายเมืองมาตั้งที่ฝั่งแหลมสน แต่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และลักษณะภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ลาดชัน ไม่มีพื้นที่ราบเพียงพอในการขยายเมือง จึงย้ายเมืองอีกครั้งหนึ่งโดยข้ามทะเลมาอยู่ที่ฝั่งบ่อยาง ซึ่งเป็นเมืองสงขลาในปัจจุบัน

 

"นิพนธ์"นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองครบรอบ 180 ปี

 

โดยในสมัยรัชกาลที่ 3 และในประชุมพงศาวดารได้ระบุความตอนหนึ่งว่า "ครั้น ณ วันเดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำ เวลาเช้าเก้าโมง 1 กับ 10 นาที ได้ฤกษ์ พระยาสงขลา (เถี้ยนเส้ง) กับพระครูอัษฎาจารย์พราหมณ์ได้เชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังไว้ที่กลางเมืองสงขลา เป็นเสาหลักเมือง มีปรากฎอยู่จนทุกวันนี้" ซึ่งตามปฏิทินสุริยคติตรงกับวันที่ 10 มีนาคม 2385 หรือเมื่อ 180 ปีมาแล้ว และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลา รวมทั้งการตั้งถิ่นฐานของเมืองสงขลาในอดีตอีกด้วย

นอกจานี้ ภายในศาลหลักเมืองสงขลา มีองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องรักษาเมืองให้พ้นภัยพิบัติต่างๆ และเป็นที่เคารพสักการะ มีองค์เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เสี่ยงฮ๋องเหล่าเอี๋ย เจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา พระเสื้อเมือง โบ้เชงไต่เต่ พระหมอรักษา ตี่ฮู่อ๋องเอี๋ย เทพเจ้ารักษาโรค และเฉ่งจุ้ยจ้อ พระหมอเทพรักษาโรคภัยของชาวสงขลา ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนศาลหลักเมืองเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2478 และในทุกวันที่ 10 มี.ค. จะมีการจัดสมโภชเป็นประจำทุกปี

 

"นิพนธ์"นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองครบรอบ 180 ปี

 

ทั้งนี้ ภายในงานได้ดำเนินกิจกรรม ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

 

"นิพนธ์"นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองครบรอบ 180 ปี

 

 

logoline