svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

"นิพนธ์"ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจช่วยปชช.ประสบอุทกภัยพื้นที่ชายแดนใต้

04 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิพนธ์"ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่มูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช  พร้อมจัดถุงปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังระบาดต่อเนื่อง

4 มีนาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน รับทราบปัญหาและวางแผนสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ในภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประสบอุทกภัยอย่างหนัก ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา

 

"นิพนธ์"ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจช่วยปชช.ประสบอุทกภัยพื้นที่ชายแดนใต้

 

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนักและคลื่นลมแรง พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ในจ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะลงพื้นที่ได้ระดมทุกหน่วย สั่งการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเร่งรัดเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน

 

"วันนี้ได้มีโอกาสตรวจเยี่ยมมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ซึ่งมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นประธานมูลนิธิฯ จึงได้ติดตามผลการดำเนินงาน ประสานความร่วมมือเพื่อวางมาตรการให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมเติมเสบียง นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มามอบให้มูลนิธิฯ เพื่อส่งต่อไปยังผู้ประสบภัย ทั้งภัยน้ำท่วม ภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย" นายนิพนธ์ กล่าว  

 

ส่วนสถานการณ์ในวันนี้ (4มี.ค.) เป็นการระบาดระลอกใหม่ ที่เชื้อไวรัสกลายพันธุ์เป็นโอมิครอน ติดได้ง่ายมากขึ้น ตนเองนอกจากจะได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วนั้น วันนี้พร้อมประสานมูลนิธิฯ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย

 

"นิพนธ์"ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจช่วยปชช.ประสบอุทกภัยพื้นที่ชายแดนใต้

อนึ่ง วานนี้ (3มี.ค.) นายนิพนธ์ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดและมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับพื้นที่ ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธาน 

 

"นิพนธ์"ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจช่วยปชช.ประสบอุทกภัยพื้นที่ชายแดนใต้

 

โดยกระทรวงมหาดไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อซักซ้อมแนวทางการขับเคลื่อน ศจพ. ในระดับพื้นที่  เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดทำฐานข้อมูล การบันทึกข้อมูล และการสนับสนุนการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศในทุกมิติได้อย่างแท้จริง

 

โดย นายนิพนธ์ ยังกล่าวด้วยว่า กับดักความยากจน คือ กลไกซ้ำเติมที่ทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ยาก ภารกิจนี้ถือเป็นเรื่องยากและท้ายทายความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ ทั้งยังต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับเงื่อนเวลา ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว

 

ทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด อีกทั้ง ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผ่านกลไกของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ซึ่งได้บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนการดำเนินงานตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ จนลงไปสู่ท้องที่ท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน 

 

"นิพนธ์"ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจช่วยปชช.ประสบอุทกภัยพื้นที่ชายแดนใต้
 

"ผมมองว่า การแก้ไขปัญหาขจัดความยากจน ลดความความเหลื่อมล้ำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น ท้องถิ่นท้องที่เป็นกลไกสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ที่ต้อง "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชน หากมีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอโดยนายอำเภอ สามารถประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ อาจจะใช้โอกาสการประชุมประจำเดือน หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นวาระพิเศษ ในการพูดคุย ปรับแผนพัฒนาท้องถิ่น โดยใช้สัดส่วนงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งสัดส่วนโครงสร้างมาดูแลในส่วนนี้ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และนโยบายการขจัดปัญหาความยากจน ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้มีการแก้ไขกฎหมายหลายๆ ฉบับ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความคล่องตัวในการดูแลพี่น้องประชาชนมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น" นายนิพนธ์ กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะประธานคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณากลั่นกรองแผนงานโครงการ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน ทราบดีว่างบประมาณที่ได้รับการจัดสรรลงมานั้นมาอย่างจำกัด โดยในส่วนของงบพื้นที่หรืองบประมาณบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ งบฟังก์ชั่นของกระทรวงต่างๆ เชื่อว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารได้ แต่สิ่งที่อยากเน้นย้ำ คือ การประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางแผนร่วมกันในการดึงงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกมาใช้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งหากสามารถนำงบประมาณในส่วนนี้มาปรับใช้ได้อย่างทันท่วงที ก็จะเป็นนิมิตหมายใหม่ในการพัฒนาประเทศต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่ควรให้ความสำคัญและเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา หากแต่ควรเกิดขึ้นในทุกๆ ภูมิภาคของประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้แต่อย่างใด และพร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับประชาชน เพราะถือเป็นจุดเชื่อมระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน หากสามารถรับสารจากพื้นที่ขึ้นมาแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ก็จะเกิดเป็นผลรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว นอกจากจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยแล้วนั้น ยังเป็นการช่วยสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย 

 

"นิพนธ์"ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจช่วยปชช.ประสบอุทกภัยพื้นที่ชายแดนใต้

 

ขณะเดียวกัน อยากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมฝากข้อคิด "ให้เบ็ด ดีกว่าให้ปลา" ถ้าให้ปลาใครหนึ่งตัว มีกินแค่หนึ่งวัน แต่ถ้าสอนจับปลา จะมีกินตลอดชีวิต เน้นแก้ไขปัญหาความยากจนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ประชาชนยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง

 

จากนั้นช่วงบ่าย นายนิพนธ์ได้ร่วมกับคณะเดินทางไปยังวัดคลองแห ร่วมกิจกรรม "คืนคลองสวย น้ำใส ให้คลองแห" ชมนิทรรศการการแก้ไขและพัฒนาคลองแห ซึ่งคลองแห่งนี้ปัจจุบันเป็นตลาดการท่องเที่ยว ในฐานะที่นายนิพนธ์ กำกับดูแลองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) จึงได้ถือโอกาสนี้เดินสำรวจสภาพน้ำในปัจจุบัน พร้อมได้ร่วมกิจกรรมโยน EM Ball หรือ ตัวการทำน้ำเน่า เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ รักษาสภาพความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ พร้อมกันนี้ ได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งคลอง ร่วมแรงร่วมใจกันดูแลรักษาคุณภาพของน้ำก่อนที่จะปล่อยลงมายังคลองแห เข้าสู่กระบวนการบำบัด และปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ 

 

หลังจากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังบ้านของนางจาง ทองเด็จ ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ เพื่อตรวจเยี่ยมครัวเรือนตกเกณฑ์ตามโครงการฯ โดยได้ร่วมมอบบัตรประชาชนให้แก่นายทวี ไชยช่วย สามีของนางจาง ทองเด็จ และมอบถุงยังชีพให้แก่ครอบครัวของนางจาง ทองเด็จ พร้อมพบปะผู้นำชุมชน ส่วนราชการในพื้นที่ ในลำดับถัดไป
 

logoline