เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายวิรัตน์ ประภาพันธ์ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 7 สันนาลุงซอย 2 ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายธงชัย รักรุ่งโรจน์ พบศพเด็กทารกในตู้แช่ภายในบ้าน บริเวณห้องพักที่ 3 ก่อนจะแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่ปิง และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าตรวจสอบ จนภายหลังนางศรีน้อย ประภาพันธ์ แม่ของนายวิรัตน์ ระบุว่าศพทารกเป็นลูกของนายเบญจรงค์ สุคนรส หรือเอลฟ์ อายุ 21 ปี หลานชายบุญธรรม ที่เสียชีวิตในท้องแม่ แต่นายเบญจรงค์ไม่ยอมนำไปทำพิธีตามศาสนา แต่นำมาแช่ตู้แช่ไว้ เพราะยังทำใจไม่ได้ ก่อนจะถูกจับกุมเข้าเรือนจำในข้อหาลักทรัพย์ เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน
ล่าสุด น.ส.แพรว (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ภรรยาของนายเบญจรงค์ และเป็นแม่ของศพเด็กทารก ได้นำเอกสารยืนยันการเสียชีวิตของเด็กทารก และเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.จรูญ เมืองมูล รอง ผกก(สอบสวน).สภ.แม่ปิง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดย น.ส.แพรว (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนได้คบหากับ นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ ประมาณช่วงกลางปี 2561 และตั้งท้องลูกคนดังกล่าวประมาณ ช่วงกลางปี 2563 จนกระทั่งได้ไปฝากครรภ์ที่ รพ.นครพิงค์ แต่ต่อมาประมาณ 7 เดือน ตนทีอาการปวดท้องอย่างหนัก จึงไปพบแพทย์และวินิจฉัยพบว่าตนมีอาคารมีภาวะเสี่ยงที่บุตรจะเสียชีวิตในครรภ์ ซึ่งระบุว่ามีโอกาส 50/50 จะเก็บลูกไว้หรือไม่ แต่ตนได้เลือกเก็บไว้ จนเข้าสู่เดือนที่ 8 ตนมีอาการปวดท้องอย่างหนักเหมือนจะคลอด นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ ได้พาไปโรงพยาบาล ซึ่งหมอได้ทำการตรวจอัลตราซาวด์พบว่าลูกได้เสียชีวิตในครรภ์แล้ว แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากตนมีความดันสูง พร้อมทั้งได้ให้ยาลดความดัน จนความดันลดลง แล้วให้ดำเนินการผ่าตัดเนื่องจากเกรงว่าตนจะมีภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต จึงตัดสินใจผ่าตัดเอาลูกที่เสียชีวิตในครรภ์ออก
ต่อมาพักฟื้นได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ตนสภาพจิตใจย่ำแย่ และหมอไม่อนุญาตให้เห็นศพลูก โดยฝั่งของ นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ ได้เป็นคนจัดการเรื่องของศพลูกทั้งหมด ซึ่งอ้างบอกกับตนว่าพ่อบุญธรรมได้มอบเงินมาให้ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าทำศพลูก หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เข้าไปที่บ้านที่ นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์อีก และคิดว่าได้ดำเนินการนำศพของลูกไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนกระทั่ง นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ ถูกขับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ช่วงประมาณปลายปีที่แล้ว จนกระทั้งมาถึงวันนี้ ทางญาติได้ส่งข่าวที่ระบุว่าพบศพเด็กทารก แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อขอมาให้ปากคำที่ สภ.แม่ปิง
น.ส.แพรว กล่าวอีกว่า จริงๆ ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เนื่องจากทำใจไม่ได้เกี่ยวกับการสูญเสียของลูก และก็ไม่นู้ว่าจะโกรธ นายเอลฟ์ทำไม เนื่องจากเรื่องมันผ่านไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนก็จะขอดำเนินการไปรับศพของลูกเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการรวบรวมเอกสารหลักฐาน พร้อมทั้งคำให้การของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนคดี ส่วนศพทารกน้อยที่พบเจอนั้น หลังการตรวจชันสูตรแล้วจะได้มอบให้ทางญาตินำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ส่วนในเรื่องของความผิดทางกฎหมายเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้นยังไม่มีการดำเนินคดีกับทาง นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ แต่อย่างใด เนื่องจาก นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ ได้รับร่างของลูกที่เสียชีวิตในท้องมารดามาถูกต้องตามความประสงค์ โดยมีหลักฐานทุกอย่างและไม่ได้มีการลักลอบทำแท้ง รวมทั้งไม่มีการนำไปขาย ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินโดยชอบธรรมที่สามารถรักษาเพื่อบูชาหรือเก็บไว้รำลึกถึง แต่อาจจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนต่อไป