"ทวี สอดส่อง"ชี้รัฐอยู่ยาวทำคุณภาพชีวิตประชาชนแย่ลงแนะรีบยุบสภา

5 มีนาคม 2565 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.นราธิวาส  โดยวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของรัฐบาลที่อาจอยู่ยาวนั้น ซึ่งความมั่นคง มั่งคั่ง จะอยู่กับนายกฯ และพวกฟ้อง แต่ประชาชนมีความยากจน มีความเหลื่อมล้ำ และคุณภาพชีวิตที่แย่ลง การศึกษาก็ด้อยลง ดังนั้น เชื่อว่าถ้านายกฯ ยังฟื้นอยู่ ก็อาจอยู่ได้ แต่สิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ ไม่อยากให้อยู่ และในทางปฏิบัติเมื่อกฎหมายเสร็จนายกฯควรยุบสภา

ทั้งนี้ เช่นเดียวกับประเด็นของการแบ่งผลประโยชน์เพื่อให้รัฐบาลอยู่ต่อได้นั้น เข้าใจปัญหาของประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนมาเชื่อ เพราะประชาชนอยู่แบบซื่อๆ ตรงๆ พรรคการเมืองหลายพรรคพูดว่าเพื่อประชาชน แต่จะทำไม่เหมือนกัน ส่วนพรรคประชาชาติวัดที่คุณภาพชีวิตและความสุข ความเจริญของประชาชน นี่คือความสำเร็จของพรรคและทุกพรรคมีความมั่นใจในประชาชน ซึ่งพรรคประชาชาติ มีความจริงใจมอบให้กับประชาชน

ส่วนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ มีส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข ส่งผลต่อพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะแยกบัตรเลือกตั้งเป็นเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ใบ โดยเลือกจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ กับบัตรเลือกตั้งส.ส.เขตทั้งประเทศ มีจำนวน 400 เขต หรือ 400 คน เช่น จ.นราธิวาส มีจำนวน 5 คน

ทั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองจะมีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชี ส.ส.ได้ทุกเขตหรือทุกจังหวัดแบบอัตโนมัติ ส่วนส.ส.เขตนั้น พรรคไหนจะส่งผู้สมัครจำนวนกี่เขตไม่มีการบังคับ บางพรรคอาจส่งเต็มจำนวน 400 เขต บางพรรคอาจส่งเพียงบางเขตที่เห็นว่ามีโอกาสรับเลือกตั้งก็ได้ ดังนั้น เห็นว่าคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ ที่มีจำนวน 100 คนนั้น

อย่างไรก็ตาม ในการคำนวณสัดส่วนปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคการเมือง ที่จะได้รับเลือกตั้งให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคได้รับมารวมกันทั้งประเทศ แล้วคำนวณจำนวนคะแนนรวม ว่าแต่ละพรรคจะได้จำนวนกี่คน โดยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งมีรายชื่อในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง จะได้เรียงตามลำดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อที่จัดลำดับ จะแยกจากคะแนน ส.ส.แบ่งเขตที่มีผลแพ้ชนะในแต่ละเขต

"สำหรับพรรคประชาชาตินั้น จะบัตร 2 ใบ หรือใบเดียว เรามีความพร้อม เพราะตั้งพรรคมา 5 ปี พรรคเราทำการบ้านมาตลอด จึงพยายามจะบอกให้ประชาชนทราบว่า พรรคประชาชาติเรากำลังแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ให้โครงสร้างของประเทศที่สมดุลย์ และให้ความสำคัญกับประชาชนต้องมาก่อน" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
 

ส่วนการแก้ปัญหาระดับชาติ พรรคประชาชาติเน้นการกระจายอำนาจ กระจายงบประมาณลงไปยังพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาไม่ใช่ ซึ่งการกระจายอำนาจ เป็นการมอบอำนาจให้มายึดครองในส่วนภูมิภาค และมายึดครองในส่วนท้องถิ่น ที่จะมากระจายกลายเป็นครอบงำมากกว่า การแก้ปัญหาแบบนี้ในยุคของ คสช. มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด และหนีไม่พ้นถ้าอำนาจอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว จะเกิดการคอร์รัปชันมากที่สุด จะไม่มีใครเคารพในสติปัญญา และศักยภาพของประชาชน

"การแก้กฎหมายการเลือกตั้งน่าจะเสร็จในเดือนพ.ค. รัฐบาลประกาศรัฐธรรมนูญเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ เขาจะมีระยะเวลาครบ 4 ปีอยู่ถึงปีหน้า แต่ในทางกฎหมายนายกรัฐมนตรี จะมีบทหนึ่งว่าท่านอยู่เกิน 8 ปีไม่ได้ ที่จะครบ 8 ปีในเดือนส.ค. 2565 นี้ ซึ่งเป็นวิกฤตของท่านนายกรัฐมนตรี ท่านจะครอบงำกฎหมายได้ แต่ท่านไม่สามารถมีเหตุผลที่จะไปฝืนเหตุผลบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ" เลขาธิการพรรค ระบุ

นอกจากนี้ ที่สำคัญอย่างยิ่งไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ว่านายกฯจะยุบสภาหรือไม่ยุบสภา แต่เมื่อรัฐธรรมนูญเสร็จ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับเสร็จ ควรที่จะยุบสภา เหมือนปี 2554 พอแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญเสร็จ ปี 2550 และจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ก็ยุบสภาทันที ถือเป็นเรื่องหนึ่งว่านายกฯ จะยุบสภาหรือไม่ ไม่มีกฎหมายห้าม แต่สิ่งที่นายกฯอยู่มาเกือบ 8 ปีนั้น ประชาชนมีคุณภาพไม่ดีขึ้นเลย