ผู้ว่าฯ อัศวิน ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสะพานข้ามคลองเคล็ดทรุดตัว

 (3 มี.ค. 65) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา และการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีสะพานข้ามคลองเคล็ดทรุดตัว โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเขตพื้นที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ณ สะพานข้ามคลองเคล็ดถนนอุดมสุข เขตประเวศ

 

 

เหตุสะพานข้ามคลองเคล็ดทรุดตัว เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 17.00 น. โดยได้ทรุดตัวจากคลองเคล็ด ถนนศรีนครินทร์ ความยาวประมาณ 80 เมตร ความลึกประมาณ 1.5 - 2 เมตร ส่งผลทำให้ท่อประปา เสาไฟฟ้า และบ้านพักอาศัยของประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 5 หลัง อาคารพาณิชย์บริเวณข้างเคียงที่ต้องทำการเฝ้าระวัง จำนวน 11 คูหา

จากการตรวจสอบพบว่า เกิดจากน้ำใต้ดินไหลเข้ามายังภายใน Shaft (อยู่ใต้สะพานคลองเคล็ด) บริเวณด้านล่างของจุดเชื่อมต่อ ระหว่าง Segment ของอุโมงค์ กับ D-wall ทำให้น้ำพัดทรายใต้อุโมงค์เข้ามาใน shaft และไหลเข้าไปตามตัวอุโมงค์ซึ่งทรายที่ไหลเข้ามานั้นทำให้ชั้นดินบริเวณด้านบนอุโมงค์เกิดการทรุดตัว รวมถึงเสาเข็มสะพานข้ามคลองเคล็ดที่ปลายเสาเข็มระดับอยู่เหนืออุโมงค์พังทลายลงมา

 

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำ และดินรั่วไหลเข้าปล่องรับน้ำคลองเคล็ด (S3) สำนักการระบายน้ำ ดำเนินการสูบน้ำลงในปล่องรับน้ำบึงหนองบอน (S1) และสูบน้ำลงในปล่องรับน้ำที่สถานีสูบน้ำอุโมงค์บางอ้อ (S8) ให้ระดับน้ำภายในอุโมงค์เท่ากับระดับน้ำใต้ดิน เพื่อรักษาสมดุลของแรงดันน้ำ (Balance Water Pressure) หยุดน้ำใต้ดินไม่ให้ไหลเข้ามาใน Shaft

 

 

ป้องกันการทรุดตัวของดินด้านหน้า Shaft และเมื่อการทรุดตัวของชั้นดินยุติแล้ว จะทำการสำรวจชั้นดินที่ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัว เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ แก้ไขซ่อมแซมส่วนที่เสียหายต่อไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรุงเทพมหานครโดยสำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักงานเขตประเวศ และกิจการร่วมค้าเอสที-เอสจี ผู้รับจ้างงานก่อสร้าง ได้เข้าพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยในอาคารดังกล่าวโดยได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการชั่วคราวที่บริเวณปากซอยอุดมสุข 53 ในเบื้องต้นได้มีการรับแจ้งผู้ได้รับผลกระทบ 30 ราย

 

และขอให้ผู้อยู่อาศัยย้ายออกจากอาคาร พร้อมการประสานจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งออกหนังสือรับรองผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สะพานคลองเคล็ดทรุดตัว โดยเป็นเจ้าของอาคารที่ได้รับผลกระทบจำนวน 17 ราย และผู้เช่าอาคารรวมถึงผู้ประกอบการในบริเวณดังกล่าวอีกจำนวน 89 ราย ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ต่อไป ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นผู้รับจ้างจะเป็นผู้รับผิดชอบ

 

ผู้ว่าฯ อัศวิน กล่าวว่าจะต้องมีการเยียวยาในเบื้องต้นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ โดยให้ผู้ที่เดือดร้อนไปลงทะเบียน แล้วจะดำเนินการเข้าช่วยเหลือ และแก้ไข โดยให้เวลาในการสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนทุกหลังที่ได้รับผลกระทบ 5 วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (3 มี.ค. – 7 มี.ค.)

 

ทั้งนี้ระยะเวลาที่จะสามารถซ่อมแซมจนถนนเสร็จสมบูรณ์จนสามารถสัญจรไปมาได้ปกตินั้น ทางบริษัทที่รับผิดชอบได้กล่าวว่า ยังไม่สามารถให้คำตอบที่เป็นระยะเวลาอันแน่นอนได้ เนื่องจากมีการเสียหายของดินเป็นจำนวนมาก และดินเหลวอาจใช้เวลาในการซ่อมแซมมากกว่าที่วางแผนเอาไว้ หากเร่งการซ่อมแซ่มให้เร็วกว่ากำหนด ก็สามารถเร่งให้ได้ แต่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่สัญจรไปมามากกว่า เพราะขึ้นอยู่กับสภาพของดินที่มีความเหลวมาก จะทำให้โครงสร้างของถนนชั่วคราวไม่แข็งแรง

 

 

จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว นายมงคง ใจหาญ เจ้าของอู่มงคงคลชัยการช่าง ที่ได้รับผลกระทบ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนนั้นได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเพราะใช้พื้นที่ ในการทำมาหากินอยู่ที่เดียว ไม่มีรายได้สำรองจากการทำอาชีพอื่นแล้ว มีค่าใช้จ่ายทุกวัน

 

จากปกติมีรายได้ต่อวันอยู่ที่ประมาณวันละ 6,000 – 10,000 บาท ภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบ ก็ไม่สามารถประกอบอาชีพต่อได้ จึงไม่มีรายได้เลย ทั้งนี้เบื้องต้นได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยการจัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราว และมีอาหารให้วันละ 3 มื้อ

 

 

ด้านการแก้ไขปัญหาการจราจรในถนนอุดมสุข จากเหตุดังกล่าว เนื่องจากต้องปิดการจราจรบริเวณซอยอุดมสุข 53 กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับแขวงการทางสมุทรปราการ และสถานีตำรวจนครบาลบางนา สำรวจเส้นทางที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนถนนสายหลัก และซอยเชื่อมต่อ อาทิ ซอยอุดมสุข 60 ซอยศรีนครินทร์ 56 ซอยอุดมสุข 51

 

และซอยศรีนครินทร์ 42 เพื่อเป็นเส้นทางลัด และเส้นทางเลี่ยงออกสู่ถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหา การจราจรในถนนอุดมสุข พร้อมทั้งจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์การปิดเส้นทางการจราจรบนถนนอุดมสุข และติดตั้งป้ายบอกเส้นทางเบี่ยง และเส้นทางลัดบริเวณสะพานลอย บริเวณแยกต่าง ๆ และตามเส้นทางก่อนเข้ามาในถนนอุดมสุข

 

 

รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ประชาชนได้หลีกเสี่ยงเส้นทางบนถนนอุดมสุขโดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักงานเขตประเวศ เขตพระโขนง และเขตบางนา ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร และแนะนำการใช้เส้นทาง