ฝ่ายกม.ไทยภักดี ร้องสอบ ‘โรม’ ใช้เอกสารอภิปรายจริงหรือเท็จ

3 มีนาคม 2565 ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายธนุ สุขบำเพิง รองหัวหน้าพรรคฝ่ายกฎหมาย พรรคไทยภักดี พร้อมด้วยนายวสันต์ มีวงษ์ กรรมการบริหารพรรค และทีมกฎหมาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ยื่นหนังสือร้องให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ดำเนินการตรวจสอบกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร โดนใช้เอกสารที่มีตัวย่อ "สนง.นรป.๙ㆍ๔ ประวัติบุคคลพอสังเขป" มาใช้เป็นเอกสารประกอบการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา

ซึ่งเอกสารดังกล่าวหลายฝ่ายเห็นว่าน่าจะเป็นเอกสารปลอมเนื่องจากแบบฟอร์มดังกล่าว เป็นแบบฟอร์มที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบและวิธีการในการสมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชการในกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๙๐๔

อีกทั้ง เนื้อหาในการอภิปรายมีความต้องการโน้มน้าวให้เข้าใจได้ว่าข้าราชบริพารในสำนักพระราชวังเข้าไปแทรกแชงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสูง และหากไม่เป็นไปตามที่ต้องการบุคคลนั้นจะได้รับอันตราย

พฤติกรรมของนายรังสิมันต์ โรม มีเป้าประสงค์ให้สำนักพระราชวังได้รับความเสียหายและเสื่อมเสีย หากไม่ทำความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณะ

ดังนั้น วันนี้ตนซึ่งเป็นฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยภักดี จึงได้รวบรวมข้อมูลเพื่อให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวน หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม นายรังสิมันต์ โรม ได้โพสต์ในเพจของเขาด้วย ซึ่งมีการแสดงความเห็นและแชร์ส่งต่อเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จะถือเป็นความผิด ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย

นายธนุ กล่าวเพิ่มเติม ทางพรรคไทยภักดี เราต้องการให้มีการตรวจพิสูจน์ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริงหรือปลอม โดยผู้ที่จะตรวจพิสูจน์ได้ดีที่สุดน่าจะเป็นพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม จะได้เป็นมาตรฐานให้คนที่เป็น สส.ในสภาจะได้รับผิดชอบในการนำหลักฐานมาประกอบการอภิปราย ถ้าเป็นเอกสารปลอมคนที่นำมาใช้ก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายด้วย

ตนได้นำหลักฐานประกอบด้วยเทปบันทึกการอภิปรายวันดังกล่าว หลังสือสำเนา สนง.นรป.๙๐๔ ที่ใช้ในการอภิปรายและนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายรังสิมันต์ โรม รวมทั้งการแสดงความเห็นในโพสต์ในลักษณะหมิ่นสถาบันฯ มาเป็นหลักฐานมอบให้ตำรวจ บก.ป.พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องพร้อมทั้งสอบปากคำนายธนุ ทันที