กองทัพยูเครน เปิดเผยว่า เกิดการปะทะอย่างดุเดือดทันทีระหว่างทหารยูเครนและทหารรัสเซียในวันนี้ หลังจากทหารพลร่มรัสเซียลงมาที่เมืองคาร์คีฟ และโจมตีโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย เปิดเผยว่า เกิดไฟไหม้ในโรงเรียนฝึกการบินหลังการโจมตีทางอากาศ และบอกด้วยว่า ไม่มีพื้นที่ไหนในเมืองไม่ถูกถล่มด้วยปืนใหญ่
นอกจากนี้ผู้ว่าการภูมิภาคคาร์คีฟ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายและผู้บาดเจ็บ 112 คนในเมืองคาร์คีฟในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา โดยขีปนาวุธหลายลูกทำลายและย่านชุมชนและอาคารศาลาว่าการเมือง โดยเฉพาะศาลาว่าการเมืองที่ระเบิดไฟลุกท่วมหลังการโจมตี มีผู้เสียชีวิต 7 รายและผู้บาดเจ็บ 24 คนคน
ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมยูเครนอ้างว่า มีชาวบ้านหลายสิบคนรวมถึงเด็กเสียชีวิต เมื่อเครื่องบินรัสเซียยิงขีปนาวุธ 16 ลูกใส่ย่านชุมชน
คาร์คีฟเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรเกือบ 1.4 ล้านคน และประชากรส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย อยู่ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย เมืองนี้ตกเป็นเป้าหมายโจมตีตั้งแต่กองทัพรัสเซียเริ่มใช้ปฏิบัติการทางหทารต่อยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
ในวันนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังเปิดเผยความคืบหน้าของปฏิบัติการว่า ทหารยึดเมืองเคอร์ซอนใกล้ทะเลดำทางตอนใต้ของยูเครนไว้ได้ทั้งหมดแล้ว โดยโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ระบบสาธารณูปโภค และระบบขนส่ง ยังคงทำงานได้ปกติ
แต่กระทรวงกลาโหมยูเครนปฏิเสธคำอ้างนี้ โดยบอกว่า พื้นที่บางส่วนยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน และทางการท้องถิ่นบอกว่า ทหารรัสเซียแค่ปิดล้อมเมืองได้เท่านั้น
หากรัสเซียยึดเมืองนี้ได้จริง ก็จะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเท่าที่ทหารรัสเซียยึดได้จากปฏิบัติการในช่วง 7 วัน
นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังเปิดเผยด้วยว่า กองทัพสามารถทำลายเป้าหมายทางทหารได้มากกว่า 1,500 แห่งในยูเครน และทำลายเครื่องบินได้ 58 ลำ โดรน 46 ลำ และรถถัง 472 คัน แต่ยังไม่เคยเปิดเผยตัวเลขความสูญเสียของกองทัพ
ล่าสุดสื่อรัสเซียรายงานวันนี้ว่า ธงชาติของยูเครนถูกปลดออกจากสถานทูตยูเครนในกรุงมอสโกของรัสเซียแล้ว ป้ายสถานทูตถูกรื้อออก และประตูถูกปิดตายด้วย รัฐบาลยูเครนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียเมื่อวันที่ 24 ก.พ.หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีคำสั่งให้เริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน