โผทหารนายพลกลางปี วัดใจ "บิ๊กบี้" กล้าขยับหรือไม่ แล้ว ตท.28 คุมกองพลหลัก?

2 มีนาคม 2565 อีกหนึ่งความเคลื่อนไหว แม้จะไม่กระเพื่อมบนผิวน้ำ แต่ใต้น้ำกลับเชี่ยวกราก กับการแต่งตั้งโยกย้ายกลางปีทั้งนายตำรวจและนายทหาร ชั้นนายพล ปกติแล้ว 1 ปีจะมี 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือนเมษายน (กลางปี) กับตุลาคม (วาระปกติ)

โผกลางปี ส่วนใหญ่เป็นการปรับเล็ก ตำแหน่งหลักๆ ไม่ค่อยมี แต่รอบนี้ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย หรือ ศรภ. ต้องขยับไปครองอัตรา “พลเอก” ไปดูกันว่ารอบนี้กองทัพไทย-กองทัพบก จะจัดโผอย่างไรให้ลงตัว

สำหรับตำแหน่ง ผบ.ศรภ. เป็นหน่วยข่าวกรองสำคัญของประเทศ หรือที่บางคนเรียก CIA เมืองไทย อยู่ในสังกัดกองทัพไทย ปัจจุบัน พลโท วัฒนะ พลจันทร์ อดีตนายทหารหมวกแดง จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็น ผบ.ศรภ.

โดยการปรับโผกลางปีนี้เจ้าตัวจะขยับขึ้นพลเอก จึงต้องหาผู้เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งแทน ล่าสุดมี 2 ชื่อที่ถูกจับตาคือ

1.พลตรี ทวีศักดิ์ มณีวงศ์ รอง ผบ.ศรภ. เตรียมทหารรุ่น 24 เรียกว่าเป็นลูกหม้อ และเป็นนายทหารหมวกแดง เช่นเดียวกับ พลโท วัฒนะ  

ย้อนไปดูที่มาที่ไปของนายทหารจากกรมรบพิเศษ ไม่ธรรมดาทีเดียว คลุกคลีการข่าวชายแดนฝั่งตะวันตก ตั้งแต่รับราชการใหม่ๆ สังกัดกรมรบพิเศษที่ 4 ดูแลชายแดนไทย-เมียนมา จากจังหวัดตากลงมา  ตำแหน่งสุดท้ายที่กรมรบพิเศษ คือ รองผู้การกรมรบพิเศษที่ 5 จากนั้นเข้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ตำแหน่ง ผอ.กองข่าว  แล้วขึ้นพลตรี ที่ กอ.รมน. รับผิดชอบงานต่อต้านการก่อการร้าย เรียกได้ว่าอยู่ในไลน์งานสายข่าวมาตลอด

กระทั่ง พลโท วัฒนะ ที่เคยร่วมสมรภูมิมาด้วยกัน ดึงมาช่วยงานที่ ศรภ. จนขึ้นมาเป็นรอง ผบ.ศรภ. และเป็นแคนดิเดตอยู่ในขณะนี้ บางคนให้ฉายาเขาว่า “มือข่าวชายแดน” โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด รอบรู้เรื่องนอกประเทศเป็นหลัก

2.พลโท วิมล คำอิ่ม ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.) กองทัพบก  เตรียมทหารรุ่น 26 / แม้จะเป็นรุ่นน้อง แต่ยศแซงขึ้นไปก่อนแล้ว

ผ่านงานด้านการข่าวความมั่นคงในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของมวลชน เกาะติดทุกข่าวสาร ขยัน ลุยงาน จนลูกน้องยอมรับนับถือ และเรียกได้ว่า เป็นผู้ชุบชีวิตของหน่วยข่าวกรองทางทหารให้เป็นที่ยอมรับในวงการอีกครั้ง หลังจากที่เป็น “ม้านอกสายตา”  

โปรไฟล์ของทั้ง 2 คน กินกันไม่ลง อยู่ในเส้นทางงานข่าวมาตลอด แต่คนละด้าน ข่าวแว่วว่า พลตรีทวีศักดิ์ มาแรง แต่สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ งานข่าวภายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มม็อบ กลุ่มมวลชนก็สำคัญ ทำให้ พลโท วิมล ก็มีลุ้น

ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ในการโยกย้ายครั้งนี้ มีข่าวว่าอาจมีการขยับในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 สังกัดกองทัพบก เพื่อความเหมาะสม แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน เพราะหากขยับเพียง 1 ตำแหน่ง หน่วยอื่นก็ต้องขยับตามมาเป็นขั้นบันได

ตำแหน่งที่น่าจับตาว่าจะขยับ และถ้าขยับ จะเป็นการเปิดหัวให้เขยื้อนกันครั้งใหญ่ คือ

พลตรี ฐกัด หลอดศิริ กับ พลตรี กันตพจน์ เศรษฐรัศมี รองแม่ทัพภาคที่ 1  เตรียมทหารรุ่น 24 ทั้งคู่ อาจจะได้ขยับเป็นพลโท  โดยเฉพาะ พลตรี ฐกัด ชื่อหล่นไปตอนตุลาคมปีที่แล้ว ในช่วงปรับย้ายวาระประจำปี 64 ครั้งนี้จึงน่าจะได้เลื่อนชั้นเป็นพลโทเสียที

ถ้า 2 คนนี้ขยับ จะมีการเขยื้อนในระดับ “ผบ.พล” ทั้ง ผบ.พล.1 รอ. (ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์) ผบ.พล.ร.2 รอ. (ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์) ผบ.พล.ร.9 (ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9) และ ผบ.พล.ร.11 รอ. (ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์) รวมถึง ผบ.มทบ.11 (ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11)

ทั้งหมดล้วนเป็นหน่วยคุมกำลัง และกำลังขับเคี่ยวช่วงชิงกันระหว่าง ตท.27 กับ ตท.28 (เตรียมทหารรุ่น 27 กับ เตรียมทหารรุ่น 28)  โดยเฉพาะรุ่น 28 ที่กำลังมาแรงมาก  ซึ่งปัจจุบัน ผบ.พล.1 รอ. คือ พลตรี วรยส เหลืองสุวรรณ ก็เป็นนายทหาร ตท.28 อยู่แล้ว แต่มีการผลักดันให้ย้ายระนาบ เพื่อเปิดทางให้เพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นพันเอกพิเศษ ขยับขึ้นมา เพื่อคุมหน่วยกำลังหลักทั้งหมด

งานนี้ว่ากันว่าถ้าขยับแล้ววุ่น ผบ.ทบ. พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ อาจเลือกอยู่นิ่งๆ ก็เป็นได้