ประธานาธิบดีปูตินได้รับเทควันโดสายดำกิตติมศักดิ์ระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของเทควันโดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 แต่ในที่สุดสหพันธ์เทควันโดโลกได้ออกแถลงการณ์ประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อยูเครนอย่างรุนแรงซึ่งถือว่าขัดต่อเจตนารมย์ของเทควันโดโลกที่ถือว่า"สันติภาพมีค่ากว่าชัยชนะ และคุณค่าของเทควันโดอยู่ที่ความเคารพและอดทนอดกลั้น"
แถลงการณ์ของสหพันธ์เทควันโดโลกระบุด้วยว่าเพื่อความเป็นเอกภาพกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล จะไม่มีการเชิญธงชาติหรือเปิดเพลงชาติของรัสเซียและเบลารุสในการจัดเทควันโดทั่วโลก รวมถึงจะไม่มีการจัดหรือยอมรับการจัดเทควันโดในประเทศทั้งสองนี้ด้วย
สหพันธ์เทควันโดประกาศขอยืนเคียงข้างชาวยูเครนและคาดหวังว่าความขัดแย้งจะยุติและบังเกิดสันติภาพขึ้นในทันที
การตัดสินใจของสหพันธ์เทควันโดโลกถือเป็นถอดประธานาธิบดีปูตินออกจากตำแหน่งกิตติมศักดิ์ด้านกีฬาเป็นครั้งที่ 2 หลังจากสหพันธ์ยูโดนานาชาติหรือ IJF ได้ถอดประธานาธิบดีปูตินออกจากประธานกิตติมศักดิ์และทูตกิตติมศักดิ์ที่ดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2008
ประธานาธิบดีปูตินเคยเป็นแชมป์ยูโดสายดำสมัยเป็นเยาวชนในบ้านเกิดคือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย และยังเคยทำวิดีโอสอนยูโดโดยใช้ชื่อว่า 'Let's Learn Judo with Vladimir Putin' หรือ"มาเรียนยูโดกับวลาดิมีร์ ปูติน" และยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับกฏกติกาการเล่นยูโดให้กับเด็กนักเรียนหลายล้านคน
นอกจากนั้นสหพันธ์ยูโดนานาชาติยังยกเลิกการจัดยูโด แกรนด์สแลม ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองคาซานในเดือนพฤษภาคมนี้
ขณะที่องค์กรฟุตบอลอย่าง FIFA และUEFA รวมถึงคณะกรรมการโอลิมปิกสากลก็คว่ำบาตรทีมจากรัสเซียและเบลารุสในการแข่งขันระดับนานาชาติเช่นกัน