วันนี้ (28 ก.พ.) พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเรือดำน้ำ กล่าวหากองทัพเรือในหลายประเด็น และเรื่องการจัดซื้อแบบจีทูจีที่ไม่จริง (อ่านรายละเอียด) ว่า การจัดหาเรือดำน้ำ ระยะที่ 1 เป็นการดำเนินการโดยรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือจีทูจี ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับของทางราชการในทุกขั้นตอน
รวมถึงเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และได้ผ่านการพิจารณาความถูกต้องด้านกฎหมายจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนที่จะเสนอให้ ครม. อนุมัติให้ผู้บัญชาการทหารเรือหรือผู้แทน เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยไปลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำลำที่ 1
ส่วนฝ่ายรัฐบาลจีน โดย The State Administration of Science, Technology and Industry for National Defense (SASTIND) ในฐานะหน่วยงานของรัฐบาลจีนสำหรับการบริหารงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการส่งออกอาวุธ ได้มอบอำนาจให้บริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co., Ltd. (CSOC) เป็นตัวแทนรัฐบาลจีนในการมาหารือเรื่องเทคนิคและราคา เจรจาต่อรอง รวมทั้งลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำลำที่ 1 กับกองทัพเรือไทย ในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล
ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ และข้อสงสัยที่ว่าผู้แทนบริษัท CSOC ที่เข้ามารับผิดชอบโครงการ เป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งโดยถูกต้องหรือไม่นั้น ขณะนี้การก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำอยู่ในขั้นตอนของการบริหารสัญญา โดยกรมช่างโยธาทหารเรือ ในวงเงินทั้งสิ้น 857 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อ 28 เม.ย. 64 และสิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. 66 รวม 720 วัน ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 307 วัน โดยทางบริษัทได้เบิกล่วงหน้า 15 % เป็นเงิน 128 ล้านบาท ซึ่งได้มีการเร่งรัดเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ จากการตรวจสอบมีก่อสร้างไปแล้วส่วนหนึ่ง หากบริษัทไม่สามารถก่อสร้างเสร็จตามสัญญาก็จะถูกปรับหรือยกเลิกสัญญา
ในส่วนของผู้แทนบริษัท CSOC ที่เข้ามารับผิดชอบโครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ เป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ จากบริษัท CSOC โดยถูกต้อง มีเอกสารสัญญาที่ชัดเจน โดยมี นาย Lang Qingxu เป็นผู้บริหารโครงการ และมีนายจักรพงษ์ วงศ์ธนปกรณ์ เป็นวิศวกรโครงการ มีคุณวุฒิวิศวกรโยธาระดับสามัญ ส่วนบุคคลอื่นๆ ทางกรมช่างโยธาทหารเรือไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่
พลเรือโท ปกครอง กล่าวว่า สำหรับประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำโดยไม่มีเครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเรือดำน้ำ ที่เยอรมันเป็นผู้ผลิต เนื่องจากเยอรมันไม่ออกใบอนุญาตการขายให้กับทางจีน แสดงว่ากองทัพเรือโดนหลอกทำสัญญาหรือไม่นั้น ในการทำข้อตกลงจ้าง กำหนดให้เรือดำน้ำแบบ S26T มีเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า รุ่น MTU396 จากเยอรมันได้ จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Diesel Generator Set) ชัดเจน
แต่เนื่องจากภายหลังเยอรมัน มีนโยบายการระงับการส่งออก(Embargo Policy) ซึ่งกำหนดให้เครื่องยนต์ดีเซลของเรือดำน้ำ เป็นสินค้าที่อยู่ในรายการควบคุมการส่งออก ส่งผลให้การจำหน่ายเครื่องยนต์ อะไหล่ หรือเครื่องยนต์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเยอรมัน ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเยอรมัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ทางจีนต้องดำเนินการแก้ไข เพราะกองทัพเรือได้ยืนยันความต้องการเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า รุ่น MTU396 จากเยอรมัน ตามข้อตกลงไปแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ทางจีนจะต้องทำตามข้อตกลง
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกันระหว่างกองทัพเรือกับบริษัท CSOC ในการหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้การดำเนินการต่างๆ ต้องเป็นไปตามข้อตกลงจ้าง รวมทั้งระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องทุกประการ โดยกองทัพเรือคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ