"เจ้าคุณปรีชา" ขึ้นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ปิดฉากดราม่า "ไพรวัลย์-สมปอง" สึก

ถือเป็นดราม่าวงการพระสงฆ์มานานหลายเดือน นับตั้งแต่ “น้ำตาหยดแรก” ของ “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” สมัยที่ยังครอง “ผ้าเหลือง” ทำหน้าที่เป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง ควงพี่ชายสุดเลิฟอย่าง “สมปอง นครไธสง” หรือ “อดีตพระสมปอง” อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังอีกคน ไลฟ์สดเมื่อช่วงเดือน ต.ค.2564 จัดหนักเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่ง “เจ้าอาวาส” วัดสร้อยทอง ย่านบางซื่อ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในชนวนเหตุสำคัญให้บุคคลทั้งสอง เลือกที่จะ “ลาสิกขา” ออกมา

ครั้งนั้น ทาง “ไพรวัลย์-สมปอง” มองว่า “พระราชปัญญาสุธี” หรือ “ท่านเจ้าคุณอุทัย” ที่ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่จะได้ขึ้นนั่งเป็น “เจ้าอาวาส” เต็มตัว แต่กลับติดชะงักบางเรื่อง จนทำให้ “สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี” (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ต้องสั่งให้ชะลอเรื่อง

โดยรายงานข่าวในตอนนั้น มีการยกเหตุผลต่างๆ นานา แต่มีหนึ่งประเด็นที่ฟังแล้ว ชวนคล้อยตามที่สุดว่า สาเหตุมาจาก “ท่านเจ้าคุณอุทัย” ไม่สามารถจัดการปัญหาความประพฤติของ "ไพรวัลย์-สมปอง" ที่ไลฟ์สดได้ แม้ทาง “มหาเถรสมาคม” เคยแจ้งเตือนไปแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะตัว “ไพรวัลย์” เอง ที่มีบุคคลบางกลุ่มพยายามบีบให้เจ้าตัวสึก ดีกว่าอยู่ใน “ผ้าเหลือง” ต่อ??

กระทั่งเรื่องที่บรรดาแฟนคลับไม่อยากให้เกิด ก็ได้เกิดขึ้นจริง เมื่อ “ไพรวัลย์” และ “สมปอง” ตัดสินใจลาสิกขาตามความตั้งใจเมื่อปลายปี 2564 ก่อนตามมาด้วย “พระมหาสมพงษ์ รัตนวํโส” พระนักเทศน์ชื่อดังอีกรูป ถือเป็นการปิดตำนานพระนักพูด 3 รูป แห่งวัดสร้อยทอง อย่างเป็นทางการ

จากนั้นเรื่องราว “เจ้าอาวาส” วัดสร้อยทอง เงียบหายไปนานหลายเดือน กระทั่งล่าสุด “มหาเถรสมาคม” มีมติครั้งที่ 4/2565 เรื่องพระราชดำริโปรดแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เลขามหาเถรสมาคม เสนอว่า ตามที่สมเด็จพระสังฆราช ได้มีพระลิขิต ว่าด้วยการแต่งตั้งพระสังฆาธิการให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ถึงราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้นำความกราบบังคับทูล พระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุรีพระบาท ตามกฎมหาเถรสมาคม

บัดนี้ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีหนังสือลงวันที่ 5 ก.พ.กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช แจ้งว่าได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุรีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาแต่งตั้งเจ้าอาวาส 50 รูป

โดยหนึ่งในนั้น ลำดับที่ 40 มีชื่อ “พระศรีปริยัติสุธี” (ปรีชา จิตฺตปริสุทฺโธ) อายุ 50 พรรษา 27 ป.ธ.9 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งไม่ใช่ชื่อ “ท่านเจ้าคุณอุทัย” ตามที่ 2 อดีตพระนักเทศน์ดัง สนับสนุนมาตลอด