ศาลตัดสินจำคุกคนละ7ปี คดีออกเอกสารสิทธิ์ทับ"เขาดวงนก"สุราษฎร์ฯ

ความคืบหน้าคดีที่นายธนิต สังขนิตย์ ตัวแทนกรมป่าไม้ ยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับขบวนการที่เจ้าหน้าที่รัฐสมคบกันกับเอกชนในการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินป่าไม้ ในพื้นที่เขาดวงนก หมู่ที่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สราษฎร์ธานี

กรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวนสอบสวนและพบการกระทำความผิด ดังนี้ เมื่อประมาณปี 2548 ต่อเนื่อง 2550 นายสุเทพ วงศ์ด่าน ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ได้เข้ายึดถือครอบครองพื้นที่เกิดเหตุบริเวณเขาดวงนก หมู่ที่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นที่เขา และมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์  เนื้อที่ประมาณ 96 ไร่

จากนั้น ได้แผ้วถางและทำลายสภาพป่าในพื้นที่ มีการนำรถแบคโฮ และคนงานเข้าไปปรับสภาพพื้นที่ ทำถนนรอบแปลงที่ดิน และมีการใช้หลักฐานการแจ้งการครอบครอง (สค.1) ของที่ดินแปลงอื่น จำนวน 4 ฉบับ เนื้อที่รวม 26–3–20 ไร่ มาแสดงเป็นหลักฐานของที่ดินที่กระทำความผิด

นายสุเทพ ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย ใช้ ส.ค.1 ทั้ง 4 ฉบับดังกล่าวเป็นหลักฐานในการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 26493 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 96–3–84 ไร่ โดยมิชอบ และยังได้ร่วมกับพวก จดทะเบียนตั้งบริษัทฯ เพื่อมาถือครองที่ดินดังกล่าวในนามนิติบุคคล

จากนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สรุปสำนวนส่งยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เนื่องจากผลการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกระทำความผิดกับเอกชนซึ่งเป็นอำนาจของ คณะกรรมการ ป.ป.ช.

ต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนความผิดของเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ โดยในส่วนความผิดที่เกี่ยวกับการยึดถือครอบครอง ก่นสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนให้ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการ โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 2/2564 และศาลอาญา ได้ออกหมายจับ นายสุเทพ วงศ์ด่าน และนายประกิจ ชำนาญกิจ ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1093/2564 ในความผิดฐาน “ยึดถือครอบครอง ก่นสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น” และจับกุมตัวได้ คณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา

ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐ คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่วมกระทำความผิด และเป็นที่ฮือฮาเมื่อผู้ต้องหาที่ ป.ป.ช. ชี้มูล 2 ราย เดินทางมาที่สำนักงานอัยการคดีปราบปรามทุจริต ภาค 8 เพื่อให้อัยการฟ้องก่อนที่จะขาดอายุความเพียง 3 วัน ซึ่งในเวลาต่อมาเข้าสู่ขบวนการศาล และพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 ที่ผ่านมา

โดยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 นายประเสริฐ กาญจนะ และนายสมพร ศรีกฤษณ์ องค์คณะผู้พิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อท 48/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท6/2565 ความอาญา ระหว่างอัยการสูงสุด นายคำนึง ชูจันทร์ จำเลยที่ 1 นายศักดิ์ศิวา หรือ คตคุณ ศรีนวล จำเลยที่ 2

โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 และนายสถิต ขอจุลช้วน ดำรงตำแหน่งช่างรังวัด 6 หัวหน้าฝ่ายทะเบียน และนายสุวํฒน์ วิชัยดิษฐ์ ช่างรังวัด 5 เจ้าพนักงานที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย ร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอายา มาตรา 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 83  จำคุกคนละ 7 ปี

โดยจำเลยรายนายสุเทพ ได้เสียชีวิตในเรือนจำขณะที่ฝากขัง 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า โดยในส่วนของเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกโดยมิชอบนั้น กรมที่ดิน ได้ดำเนินการตรวจสอบและได้มีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน เลขที่ 26493 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตามคำสั่งกรมที่ดินที่ 1264/2550 ลงวันที่ 5 เม.ย.50 แล้ว

ด้านนายจงรักษ์ ทรงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นที่ดินป่าไม้ หลังจากที่กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์  และทราบข่าวว่ามีการครอบครองที่ดินพื้นที่เกิดเหตุอยู่จึงได้เดินทางด้วยตัวเองลงพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อไปดูพื้นที่  แต่ปรากฏว่าไม่มีการครอบครองพื้นที่แต่อย่างใดแล้ว ไม่มีการตัดหญ้าหรืออะไรแต่อย่างใด

“เรื่องนี้ผมเป็นผู้เริ่มดำเนินการเองตั้งแต่ผมเป็นหัวหน้าส่วนและมี รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในสมัยนั้นลงมาดูพื้นที่” นายจงรักษ์ กล่าว