15 กุมภาพันธ์ 2565 จากปัญหาการบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุมของ 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เพื่อเลี่ยงการพิจารณาวาระ ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) จำกัด บริษัทในกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส อาจกลายเป็นรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล และอาจส่งผลกระทบต่อการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ.อีกด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยัน ความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นแฟ้น ไม่มีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการทำงาน เป็นเพียงความเห็นต่างของหน่วยงาน ไม่ได้เป็นความขัดแย้งด้านนโยบาย
ส่วนที่บางฝ่ายมองว่า เรื่องการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะกลายเป็นปัญหาแตกหักระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ยังห่างไกลจากจุดนั้นอีกมาก เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงความเห็นในเรื่องกฎหมายที่แตกต่างกัน และถือว่าเป็นสิทธิ์ที่เห็นต่างได้ เพราะอีกฝ่ายมองว่าหากดำเนินการไปแล้วจะเสี่ยงผิดกฎหมาย เสี่ยงคดีความ เสี่ยงคุกตารางและเสียค่าเสียหาย เป็นเรื่องคดีอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง จำเป็นจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และยอมให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ดุลยพินิจ ส่วนมติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามนั้น แต่จะบังคับให้เห็นด้วยหรือต้องรับโทษเท่ากันทั้งหมด ตรงนี้ต้องไปพิจารณากันเอง
ด้านนายนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหา เท่าที่ตนทราบกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงมหาดไทย กำลังหารือกันอยู่ ว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร ต้องทำความเข้าใจกันในเรื่องของข้อกฎหมายมากกว่า เพราะข้อเท็จจริง รถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นเรื่องของส่วนต่อขยายสัมปทานเดิมของ BTS ที่ให้บริการเดินรถอยู่แล้ว ซึ่งการต่อขยายนั้นรัฐบาลในอดีต เห็นว่าต้องให้เจ้าเดิม เดินรถต่อไป เพราะหาก บริษัทอื่นมาเดินรถ ประชาชนก็จะลำบาก ยกตัวอย่างเช่น มาถึงสถานีหมอชิต ก็ต้องลงมาขึ้นรถอีกคันนึงทำให้เสียเวลาและเพิ่มภาระให้ประชาชน จึงตัดสินใจให้บริษัทเดิม ขยายเส้นทางเดินรถออกไป เพื่อความสะดวกสบายของประชาชน นี่คือที่มาของการต่อขยายการเดินรถ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาทางการเมือง
นายชัยวุฒิ ยังยืนยันด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะทำงานด้วยกันได้ ไม่มีเรือล่มอับปางแน่นอน
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว จะส่งผลต่อการชี้แจงอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมา อภิปรายหรือสอบถามหรือไม่ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ต้องชี้แจง เมื่อเขาสอบถามหน่วยงานไหน หน่วยงานนั้นก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงและทำความเข้าใจ