“ป่าไม้ชัยภูมิ” เผยที่ดิน “สมปอง - ชาวบ้าน" อยู่ใน “เขตป่าสงวน” ยกหมู่บ้าน

          จากกรณี นายสมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง ซื้อดิน ส.ป.ก 300 ไร่ ที่จังหวัดชัยภูมิ เป็นที่วิพากษ์วิจารย์อย่างมาก และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำเรื่องดังกล่าวร้องไปยังเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพื่อขอให้ตรวจสอบที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ  ซึ่งส.ป.ก.ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบที่ดิน "สมปอง" กว่า 300 ไร่ ในท้องที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ แล้ว พบครอบครองเนื้อที่ 7 ไร่

          ต่อมา วันนี้ (8 ก.พ.65)  นายดุสิต กมลพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ชัยภูมิ สั่งสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม บ้านมอตาเจ็ก ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ จำนวนกว่า 50 นาย โดยเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ดินสปก.อ้างว่าอยู่นอกเขตรับผิดชอบของสปก.ชัยภูมิ โดยได้เริ่มทำการตรวจสอบตั้งแต่เวลา 09.30น. จนถึงเวลา 14.00 น. ตรวจไปแล้วจำนวน 7 แปลง ซึ่งทั้ง 7 แปลงนั้น มีการบุกรุกแผ้วถาง ปลูกพืช และหนึ่งใน 7 แปลงพบว่ามีการปลูกยางพารา 6 แปลงที่กรีดยางได้แล้วและต้นทุเรียน 1 แปลง ซึ่งทั้ง 7 แปลง ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งหากทราบชื่อผู้ครอบครอง ทางป่าไม้ก็จะเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

          จากแหล่งข่าวจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย. 4 (คอนสาร) ให้ข้อมูลว่า จาการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ภายในทั้งหมู่บ้านมอตาเจ๊ก หมู่ 14 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รวมทั้งบ้านเรือนไทยสองชั้นของอดีตพระมหาสมปอง หรือนายสมปอง นครไธสง ที่ก่อสร้างอยู่ภายในหมู่บ้านมอตาเจ๊ก หมู่ 14 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ประมาณ 7 ไร่ ที่นายสมปองซื้อก่อสร้างเก็บไว้ระหว่างเป็นพระส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูซำผักหนาม

          ซึ่งที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูซำผักหนาม ทางราชการอนุญาติให้เกษตรกรปลูกพืชทำการเกษตร จำพวกสวนทุเรียน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และ สวนผลไม้ ที่ผ่านมาก็มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกัน โดยป่าไม้อนุญาตให้ทำกิน แต่ต้องไม่มีการบุกรุกป่าเพิ่ม และที่ดินส่วนใหญ่อยู่นอกเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน และขณะนี้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย. 4 (คอนสาร) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้

          อย่างไรก็ตามจากกระแสดราม่าการแตกหักกับ "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" และการถูกเพ่งเล็งตรวจสอบอย่างหนักจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนัก ล่าสุด “สมปอง” ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า “ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นนะครับ และขอเวลาเพื่อที่กลับมาสร้างความสุขให้ทุกท่านอีกครั้ง จากใจ…ไอ้ปอง”