
เป็นดราม่าเดือดช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา จนดันแฮชแท็กคำว่า “#แจ็กแปปโฮ” ขึ้นติดเทรนด์ ภายหลังปรากฎคลิปนายจาตุรงค์ พาโพธิ์ หรือ “แจ็กแปปโฮ” เจ้าของช่องยูทูบ และเพจเฟซบุ๊ก “สวัสดีครับผมแจ็กแปปโฮ” ที่มีผู้ติดตามมากว่า 4. 7 ล้านคน ปีนขึ้นบนโต๊ะอาหาร ภายในร้านญี่ปุ่น MANEKU OMAKASE ซอยพัฒนาการ 20 ย่านสวนหลวง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์
นอกจากตัว “แจ็กแปปโฮ” จะถูกทัวร์ถล่มอย่างหนักแล้ว ทางร้านญี่ปุ่นเองก็หนักหน่วงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊ก “MANEKU OMAKASE - Pattanakarn 20” ของร้าน ที่แม้จะแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการปิดปรับปรุงระหว่างวันที่ 6-8 ก.พ.ถูกไล่กดลด “ดาวรีวิว” จนเหลือเพียงแค่ 1 ดาวเท่านั้น
ซึ่งประเด็นหลักๆ ที่ทำให้ทางร้าน ถูกโซเชียลกัดไม่ปล่อย เกิดจากบุคคลหนึ่ง ที่อ้างตัวเป็นหุ้นส่วนร้าน แสดงความคิดเห็นคล้ายเหยียดลูกค้า โดยระบุข้อความว่า “คนที่ติไม่มีเงินมากินครับ!! ได้แต่กดคีย์บอร์ดอยู่บ้านครับ”
หลังจากเรื่องราวของหุ้นส่วนรายนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทาง “อดีตแฟนเก่า” โพสต์ภายในเพจ “พวกเราคือผู้บริโภค” เพื่อทวงเงินฝ่ายชาย หลังจากถูกยืมเงินประมาณ 2.4 ล้านบาท ไปนาน 2 ปี แต่ยังไม่รับเงินคืน แต่กลับไปโพสต์เหยียดลูกค้า
โดยรายละเอียดข้อมูลที่ทาง “อดีตแฟนเก่า” นำมาเผยแพร่ เป็นข้อความพูดคุยที่ฝ่ายชาย หุ้นส่วนร้านญี่ปุ่น ขอหยิบยืมเงินไปใช้จ่ายในร้าน จำนวน 2.4 ล้านบาท แต่ฝ่ายชายทยอยคืนแค่บางส่วน และมีการหักเงินเล็กๆ น้อยๆ จาก “ของขวัญ” ที่เคยซื้อให้ฝ่ายหญิง เช่น แหวนราคา 76,000 บาท หรือนาฬิกา 1.8 แสนบาท เป็นต้น
ขณะที่ทางหุ้นส่วนร้านญี่ปุ่น ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะแสดงความเห็นเหยียดลูกค้า แต่เป็นการพูดคุยตอบโต้แบบอารมณ์น้อยใจกับรุ่นพี่ในเฟซบุ๊กเท่านั้น ซึ่งส่วนตัวอยากขอโทษคนในสังคม ที่แสดงความเห็นแบบนั้นออกไป
"ส่วนเรื่องยืมเงินอดีตแฟนสาว ขอชี้แจงว่าเรา 2 คน ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยธุรกิจของผม เขาจะเอาเงินมาช่วยซัพพอร์ต ส่วนธุรกิจของเขาที่ภาคใต้ ผมไปช่วยซัพพอร์ตเช่นกัน ฉะนั้นต่างฝ่ายต่างมีหนี้ซึ่งกันและกัน โดยตอนนี้อยู่ในช่วงของการเคลียร์หนี้สินกัน"
ด้านเพจ "ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม" ของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เตรียมยื่นสอบร้านญี่ปุ่น โดยระบุรายละเอียดว่า "วันจันทร์ที่ 7 ก.พ.ทางชมรมจะเข้าไปตรวจสอบแบบแปลนร้านอาหารญี่ปุ่น และตรวจสอบรายงานการเสียภาษีของร้านดังกล่าวว่า ทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ใหญ่แค่ไหนก็ไม่รอดน๊ะ"