รายการเนชั่นสุดสัปดาห์ ดำเนินรายการโดย ปกรณ์ พึ่งเนตร และ สมชาย มีเสน ออกอากาศทางช่องเนชั่นทีวี 22 วิเคราะห์คะแนน และผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร (บางส่วน) ว่า คะแนนที่ออกมาแม้จะยังนับไม่ถึง 100% แต่ก็เหมือนโพลล์ ซึ่งออกมาเมื่อ 2-3 วันก่อนเลือกตั้ง ที่ว่าพรรคเพื่อไทย จะมาที่ 1
สำหรับ สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย นับเป็นความ "ขมขื่น" ที่เลือกตั้งมี.ค.62 ได้มา 3.2 หมื่นคะแนน พ่ายให้กับ "สิระ เจนจาคะ" แต่เลือกตั้งคราวนี้ (30 ม.ค.65) สุรชาติ สามารถเอาชนะคู่ปรับเดิมไปได้ 4 ช่วงตัว
ผลคะแนนที่ออกมา นั้น เชื่อว่าทุกพรรคจะต้องนำกลับไปวิเคราะห์และถอดบทเรียน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ คงวิเคราะห์ได้เอง
"คะแนนโหวต" ครั้งนี้เป็น "โหวตยุทธศาสตร์" ชาวบ้านเทคะแนนไปให้พรรคเพื่อไทย แสดงว่า "ไม่เอารัฐบาล"
ถ้าย้อนกลับไปดูคะแนนเลือกตั้งปี 62 คะแนนรวมขั้วพรรคเพื่อไทย กับอนาคตใหม่ ได้ 57,850 คะแนน
ส่วนขั้วอนุรักษ์นิยม พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ คะแนนรวม 51,162 คะแนน
คราวนี้การเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่และจตุจักร (บางส่วน) จะทำให้มองเห็นคะแนนนิยมรัฐบาล ว่า "ตกลง" หรือไม่ และครั้งนี้ต่อให้ 3 พรรค คือ พลังประชารัฐ พรรคไทยภักดี พรรคกล้า ตอนนี้ยังได้ 3 หมื่น แต่ 2 พรรค เพื่อไทย และก้าวไกล ได้เกิน 5 หมื่นคะแนนไปแล้ว
ดังนั้น "ฟันธง" ได้ ณ ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ใกล้เข้าสู่ "เส้นชัยชนะ" เลือกตั้งซ่อม คะแนนออกแบบนี้พรรคเพื่อไทย จะคุยไปคุยเรื่อง "แลนด์สไลด์" หรือไม่ก็จะบอกว่า คะแนนนิยมในฟากรัฐบาลเปลี่ยนแล้ว
แม้ว่าในการหาเสียงช่วงสุดท้าย พรรคพลังประชารัฐ เอาชื่อ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาหาเสียงโค้งสุดท้าย คะแนนก็ได้แค่ 6 พัน
"ของแพง โควิด"มีผลต่อคะแนนนิยมรัฐบาล
คะแนนนิยมรัฐบาล เรื่อง "ของแพง" และ "โควิด" ต้องบอกว่า "โควิด" หนักมากมา 2 ปี เขตหลักสี่ เลือกส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเข้าไปก็ผิดหวังรัฐบาลจัดการกับโควิด ดังนั้น พลังประชารัฐ ถ้าได้ที่ 4 จากที่ 1 ลงมาที่ 4 ต้องทบทวน หรือไม่ก็บอกได้ว่าคนเริ่มหนี โดยเฉพาะเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีใครกล้าอยู่พรรคพลังประชารัฐ
ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ อาจจะพูดได้พ่ายแพ้ครั้งนี้เพราะไม่มีผม ส่วน "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" มาช่วยไม่ได้เพราะติดโควิด
คะแนนขนาดนี้การเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส.กทม.ใครกล้าอยู่พลังประชาชรัฐ อยากรู้?
แม้ว่า "สิระ เจนจาคะ" อุตสาห์เอา "หลวงพ่อป้อม" เอาภรรยาลงเอง นายสิระ ต้องคิดอะไรสักอย่าง "หลวงพ่อป้อม" ลงพื้นที่ 2 ครั้ง แต่พรรคไม่ได้ปราศรัยใหญ่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเดียวที่ไม่ปราศรัยใหญ่ ขณะที่พรรคอื่นๆ มี
พรรคพลังประชารัฐ แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ และฝากผู้ชนะดูแลคนหลักสี่ นับว่ายอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่ไก่โห่ ตอนนี้
เหลือ 2 พรรคชิงลำดับ 2 คือพรรคกล้า กับพรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกล "อายซ้ำ" ถ้าไม่ได้คะแนนมากกว่าเดิม คือ 25,000 ต้องทบทวนตัวเองเหมือนกัน
สำหรับ "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" ผู้สมัครพรรคกล้า นั้นจะได้คะแนนเขตจตุจัตร เป็นพื้นที่เดิม และเน้นทำพื้นที่นั้น
"ชลน่าน"ชี้3ปัจจัยเพื่อไทยชนะ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ ว่า เท่าที่ดูคะแนนพรรคพอจะชัดเจนแล้วอย่างไม่เป็นทางการ และดูตามโพล ประมาณการณ์ว่าชนะ 7 พันขึ้น เดิมเราคาดการณ์ผู้มาใช้สิทธิจะมากว่าหรือเท่าเดิม แต่ผู้ออกมาใช้ประมาณร้อยละ 50
สำหรับสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยชนะ นพ.ชลน่าน ระบุว่ามาจาก 3 ปัจจัย
1.ตัวผู้สมัคร เป็นปัจจัยหลักเพราะทำงานพื้นที่มานาน
2.พรรค และนโยบายพรรค รวมถึงกลไกการหาเสียงเลือกตั้ง
3.ความไม่พอใจเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ทำให้คะแนนฝ่ายประชาธิปไตยรวมกัน เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าพี่น้องอยากออกจากวิกฤติ
ส่วนจะเป็น "คะแนนยุทธศาสตร์" หรือไม่ นพ.ชลน่าน เผยว่า เป็นคะแนนที่ประชาชนอยากบอกรัฐบาล พี่น้องหลักสี่ อยากกู้ศักดิ์ศรี
สำหรับพรรคเพื่อไทย ได้ 1 เสียง จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเมืองหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คะแนนสะท้อนว่าการเมืองเป็นอย่างไร คือไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ แต่การมี 1 เสียงทำให้กลไกในสภาเข้มแข็งขึ้น ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ที่ง่อนแง่น ต่อจากนี้ไปพรรคเพื่อไทย จะขับเคลื่อนแรงขึ้น และแนวโน้นความขัดแย้งรัฐบาล แสดงออกมาว่าแต่ละฝ่ายไม่ไปด้วยกันแล้ว
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ผลเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย เป็นสัญญาณการยอมรับของประชาชน ถ้าพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ให้ดีทั้งผู้สมัคร พรรค และยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้ยุทธศาสตร์ "แลนด์สไลด์" เป็นก้าวแรกที่ฝ่ายประชาธิปไตยบอกไว้ โดยสังเกตจากผู้สมัครหมายเลขที่คาดหมายว่าจะมาคู่คี่กับเรา มาเป็นอันดับ 4
ส่วนที่ว่าทำไมคนมาใช้สิทธิน้อย นพ.ชลน่าน วิเคราะห์ว่า เป็นการเลือตั้งซ่อม ในเขตหลักสี่ นั้นประชาชนออกมาเกินร้อยละ 60 ตรงข้ามกับโพลที่คาดว่าจะออมาร้อยละ 50-52 ส่วนเขตจตุจักร เป็นบ้านมีรั้ว การออกมาใช้สิทธิมาด้วยใจ คนออกมาน้อย ถ้าเป็นอย่างอื่น ปัจจัยชุมชน มีปัจจัยอื่น แต่คะแนนล่าสุดห่างกัน 9,000 คะแนน
ก้าวไกล พอใจ"หน้าใหม่-เวลาน้อย" มาลำดับ2
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องยอมรับ "สุรชาติ" ทำงานมานาน ยอมรับชื่นชมว่าทำงานมานาน แต่คะแนนที่ 2 ของพรรคก้าวไกลไม่ได้แย่ สำหรับ "กรุณพล เทียนสุวรรณ" ได้มาขนาดนี้ ต้องขอบคุณประชาชน อีกปัจจัยคือคนออกมาใช้สิทธิน้อย
การที่พรรคก้าวไกล ได้คะแนนไม่ถึงคะแนนเลือกตั้งเดิมปี 62 แต่ละพรรค ก็ได้ลดหลั่นลง คะแนนพรรคก้าวไกล ถดถอยหรือไม่ ต้องดูเป็นเปอร์เซนต์ คะแนนที่ออกมา ผู้มาใช้สิทธิน้อย และเราเพิ่มเริ่มทำงานในพื้นที่
แต่คะแนนที่ออกมาพรรคฝ่ายค้านจับมือกัน ที่ 1 (เพื่อไทย) ที่ 2 (ก้าวไกล) เป็นสัญญาณดี แต่ไม่ดีสำหรับพรรครัฐบาล ถ้าดูจากคะแนนไม่ป็นทางการ เพื่อไทย ก้าวไกล ชนะเกินร้อยละ 50 สะท้อนความไม่พอใจรัฐบาล เป็นการส่งเสียงแล้ว ไม่แน่ใจว่าผลออกมาแบบนี้เลือกตั้งทั่วไป เลือกตั้งผู้ว่ากทม. จะเลื่อนไปอีกไหม
สำหรับพรรคก้าวไกล ครั้งนี้ ไม่ชนะก็เก็บเป็นบทเรียน ทำงานให้หนักกว่านี้
คุณสมชาย มีเสน วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะพรรคขนาดเล็กที่ได้คะแนนหลักร้อย เลือกตั้งครั้งหน้าบัตร 2 ใบ หมดสิทธิ์ แต่ที่ต้องส่งผู้สมัครเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไม่ให้ชื่อพรรคหายไป
ดังนั้น คะแนนที่ออกมาทั้งหมด ทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง รวมถึงพรรคเล็ก จะไปถอดบทเรียนเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป