PETA หรือ People for the Ethical Treatment of Animal องค์กรการกุศลเพื่อสิทธิสัตว์ของอเมริกาที่ตั้งอยู่ในเมืองนอร์ฟอล์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้ออกข้อเรียกร้องไม่ให้ผู้คนปล่อยแมวของตนเองออกจากบ้าน ให้เหตุผลว่าแมวเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ขนาดเล็ก เช่น นก รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของแมวเองด้วย เพราะแมวที่ได้รับอนุญาตให้ออกข้างนอกโดยไม่มีผู้ดูแล มีความเสี่ยงที่จะถูกรถชนหรือวางยาพิษ เว้นแต่เจ้าของแมวจะมีพื้นที่สวนในบ้านที่แมวไม่สามารถหลบหนีออกมาได้
อิงกริด นิวเคิร์ก ผู้ก่อตั้ง PETA กล่าวเปรียบเปรยว่า "ผู้คนคงไม่อยากที่จะเปิดประตูบ้านและปล่อยให้ลูกเล็กหรือเด็กวัยหัดเดินออกไปเตร็ดเตร่บนท้องถนนตามลำพัง แมวเองก็ต้องการการคุ้มครองแบบเดียวกัน เพราะในทุกวัน มีแมวถูกรถวิ่งทับ ถูกวางยาพิษจากอาหารริมทาง หรือหรือตายด้วยน้ำมือของวัยรุ่นที่รังแกสัตว์เพื่อความสนุกสนาน ดังนั้นถ้าคุณรักแมวของคุณ ให้เก็บมันไว้ในบ้านและทำให้บ้านของคุณเป็นสถานที่ที่น่าเพลิดเพลิน มีสิ่งต่างๆ ที่แมวจะเล่นด้วยได้"
อย่างไรก็ตาม เจ้าของแมวหลายๆ คนไม่เห็นด้วยกับนโยบายเช่นการกักขังสัตว์เลี้ยงซึ่งจำเป็นต้องได้รับอิสระในการเดินเตร็ดเตร่
ดร.ลอเรน ฟิงกา ผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพแมวจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม กล่าวว่า "แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ควรขังให้อยู่แค่ในบ้าน การสัญจรไปมาอย่างอิสระมีประโยชน์ต่อสุขภาพของแมวเอง เป็นวิธีที่แมวใช้เพื่อจัดการกับความเครียดจากการใช้ชีวิตในครัวเรือนของมนุษย์"
เชื่อกันว่าหนึ่งในสี่ของแมวอังกฤษอาศัยอยู่เฉพาะภายในเท่านั้น แต่ซีเลีย แฮดดอน ผู้เชี่ยวชาญด้านแมวกล่าวว่า "สำหรับแมวที่อาศัยอยู่นอกบ้าน การเลี้ยงไว้ในร่มอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องโหดร้ายสำหรับพวกมัน"
ขณะที่สัตวแพทย์ออกมาเตือนว่าแมวเกือบครึ่งในสหราชอาณาจักรกำลังเป็นโรคอ้วน และการต้องถูกกักบริเวณในบ้านจะทำให้สุขภาพพวกมันยิ่งเลวร้ายลง