28 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงสุขภาพและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. นี้ ที่จะมีการจุดธูปเทียนบูชาเซ่นไหว้ เผากระดาษเงิน ที่อาจเป็นสาเหตุการเกิดอัคคีภัย รวมถึงอุบัติภัยขนาดใหญ่ จึงกำชับให้แต่ละพื้นที่เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ และเจ้าพนักงาน เฝ้าระวัง ตรวจตรา อาคารบ้านเรือน พื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ และสถานบริการ โดยเฉพาะสถานที่ที่จัดงานแล้วมีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด พร้อมตรวจสอบ และปรับปรุงข้อมูลพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ซักซ้อมการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจน
นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงวันหยุดพักผ่อนของชาวไทยเชื้อสายจีนนี้ อาจมีการมารวมตัวและทำกิจกรรมเป็นจำนวนมากหรือออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจากการจราจรทั้งทางบก และทางน้ำ สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทยให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกพื้นที่ เข้มงวดตรวจตราอาคารสถานที่ โป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสาร ให้มีความปลอดภัยต่อการใช้บริการของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
อีกทั้งประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) จึงขอให้ทุกฝ่ายยังต้อง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่หรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ ร้านอาหาร ตลาด ศาลเจ้า หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มเครือญาติ โดยยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีนตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ในช่วงวันที่ 28 มกราคม 2565 - 3 กุมภาพันธ์ นี้
พร้อมรณรงค์ขอความร่วมมือประชาชน ลดกิจกรรมการเผาทุกชนิดในช่วงวันตรุษจีน เพื่อลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และอันตรายจากอัคคีภัยที่มีสาเหตุจากการจุดธูปเทียนบูชา เซ่นไหว้ เผากระดาษเงิน กระดาษทอง การจุดประทัดตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมทั้งมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วย