ตอนนี้ราคาหมูในตลาดยังอยู่ที่ 200-230 บาท วันที่ 1 ก.พ.65 จะถึง "วันตรุษจีน" ราคาหมู จะยิ่งพุ่งสูง
ปฏิบัติการตรวจค้นสต๊อกหมูกำลังค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 18-25 ม.ค.65 มีการตรวจพบซากสุกร จำนวน 18,727,824.54 กิโลกรัม ถ้าตรวจสอบเพิ่มเติมตัวเลขอาจทะลุ 20 ล้านกิโลกรัม ตรวจทุกวันเจอทุกวัน แสดงว่ามีกระบวนการหากินกับเรื่องหมู
ขบวนการหากินกับหมู
มือปฏิบัติการ
นอกเหนือจากขบวนการนี้การตรวจห้องเย็นถึงวันที่ 25 ม.ค.65 มีเครือข่ายที่โยงใยกับขบวนการนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุด
ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กำหนดว่า กรณีที่ไม่แจ้งปริมาณสต๊อกถือว่ามีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดระยะเวลาฝ่าฝืน
กรณีที่แจ้งแล้วต้องตรวจสอบต่อไปว่าแจ้งด้วยข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ หากแจ้งด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ จะมีความผิดอีกเช่นกัน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกักตุน ซึ่งหมายถึงการปฏิเสธการจำหน่าย ทั้งที่มีสินค้าและมีผู้ขอซื้อสินค้าเข้ามาแต่ไม่จำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลายคนตั้งคำถามว่าปริมาณเหล่านี้ที่ตรวจพบ 18.7 ล้านกิโลกรัม ทำไมไม่เอาออกมาจำหน่าย
สิ่งที่กรมการค้าภายในและกระทรวงพาณิชย์ ควรทำ
คุ้มครองผู้บริโภค
เจรจานำเอาออกมาขาย
ตอนนี้พยานชัดเจนว่ามีการตัดตุนสินค้าจริง หลังจากที่ไปฟ้องร้องบริษัทห้องเย็น บุคคลที่เอาหมูไปกักตุนไว้ยอมรับผิด
สาเหตุที่ยอมรับผิดเพราะตอนนี้กรมปศุสัตว์ไปแจ้งความดำเนินคดี
คำถามคือ ตกลงหมูที่อายัดไว้มีผลกับราคาหมูหรือไม่ ? คำตอบคือ "มีผล"
คนไทยกินหมู เฉลี่ย 20 กิโลกรัม/ปี ส่วนหมูสต็อกที่กักไว้ 18.7 ล้านกิโลกรัม หมายความว่า คนไทย 9.5 แสนคน กินหมูกักตุนชุดนี้ไปทั้งปี เปรียบเทียบสัดส่วนประชากร ดังนี้
ระนอง 187,647 คน กินได้ 5 ปี
ภูเก็ต 416,582 คน กินได้ 2 ปี 3 เดือน
นนทบุรี 1,288,604 คน กินได้ 3 ไตรมาส
รัฐบาลประกาศถ้าใครทำผิด ร่วมกันทำให้ราคาสูงขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อนจะเอาผิดให้ได้
ที่มา เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร