เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในสังคมและโซเชียล กรณีอุบัติเหตุที่ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” ถูก "ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก" ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ขี่บิ๊กไบค์ชน ระหว่างข้ามทางม้าลายเสียชีวิต ซึ่งภายหลัง "ส.ต.ต.นรวิชญ์" พร้อม ร.ต.ต.นิคม บัวดก ตำรวจ สน.ปทุมวัน ซึ่งเป็นบิดา ได้มีการบวชให้กับหมอกระต่าย
โดยประเด็นที่สังคมมีการตั้งคำถามและถกเถียงกันอย่างหนักคือ "ส.ต.ต.นรวิชญ์" ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินคดีความนั้นสามารถบวชได้หรือไม่ เพราะมีการระบุว่า ผู้ที่ต้องคดีอาญานั้นไม่สามารถบวชเป็นพระได้
ล่าสุดวันนี้ (24 ม.ค.) นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ได้มีการโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก Jaturong Mantaso Jongarsa ระบุว่า
#อุปัชฌาย์ดีศรีพระศาสนา??
บวชได้บวชไม่ได้รู้อยู่แก่ใจ พรรษาไม่ใช่น้อยๆ ข่าวก็ครึกโครม
1.ข้าราชการจะบวชต้องมีกำหนดชัด ไม่ใช่บวชไม่สึก แบบนี้เรียกว่าละทิ้งหน้าที่ราชการ
2.ข้าราชการจะบวชต้องมีหนังสือรับรองจากต้นสังกัด ว่าไม่ได้หนีราชการมาบวช
3.หากเป็นผู้ต้องหาที่คดีไม่เป็นที่สิ้นสุด ต้องมีกำหนดให้ชัดเจนว่าจะสึกเมื่อไร ไปขึ้นศาลจะไปในผ้าเหลืองก็ได้ แต่เมื่อคดีสิ้นสุด ศาลลงอาญาก็ต้องสึก
4.แบบนี้เข้าเกณฑ์มหาเถรสมาคม ข้อ1-2-3 พระสังฆาธิการที่บวชให้ควรรับการลงโทษตามจริยาพระสังฆาธิการ
สุดท้ายนี้ คงต้องรอดู เจ้าคณะปกครอง ทั้งเจ้าคณะกทม. เจ้าคณะภาคหนึ่ง และที่ขาดเสียไม่ได้ เจ้าประคุณสมเด็จเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่จะแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกต้อง หรือจะนิ่งเงียบตีมึนกันไปวันๆ
#อนึ่ง....
การบวชให้ส่งเดชนั้นอันตรายมากๆ เพราะกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ดูอย่างในอดีตเถิด ชนวนเหตุวิกฤต6ตุลา ก็เพราะพระผู้ใหญ่พาซื่อบวชชุบตัวให้เณรจอมพลถนอม จนบ้านเมืองลุกเป็นไฟ เพราะดันไปบวชให้บุคคลอันไม่สมควร
#หรือคณะสงฆ์ไทยลืมประวัติศาสตร์ในอดีต????
ขณะที่ นายสิปบวรณ์ แก้วงาม ผอ.สำนักพุทธ ระบุว่า ตามมติ มส.และข้อห้ามพระอุปัชฌาม์ กรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ นั้นเข้าข่ายบวชไม่ได้ เนื่องจาก “กฎมหาเถรสมาคม ฉ.17 (2536)
หมวดที่ 3 ข้อ 14 ระบุไว้บางชาวงบางตอนว่า....
“....พระอุปัชฌาม์ ต้องงดเว้นการให้บรรพชา
อุปสมบทแก่คนต้องห้ามเหล่านี้....”
โดย ข้อ 3 คือ “..คนต้องหา ในคดีอาญา..”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจกองบังการอารักขาและควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังการอารักขาและควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ระบุว่า ส.ต.ต.นรวิญช์ ได้ยื่นเอกสารขอลาบวช และยังไม่ทราบกำหนดสึก เจ้าตัวตัดสินใจไปบวชเอง ขอลาไปกับพ่อ ส่วนการบวชในขณะที่มีคดีความสารถทำได้ เพราะไม่ใช่คดีเกี่ยวกับการ "ฆ่าบุพการี" ที่จะห้ามบวชคือกรณี "นักโทษหนีหมายจับ" แต่กรณีนี้เป็น "การกระทำโดยประมาท"