เปิดวิธียืนยันสิทธิ โครงการคนละครึ่งเฟส 4 รอรับ 1,500 บาท

อัปเดตความคืบหน้า “คนละครึ่งเฟส 4” หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งรัดโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน ให้ขยับขึ้นมาเร็ว จากเดิมที่ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.2565

 

ซึ่งขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้นำเสนอเรื่องไปแล้วอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการ เช่น จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ และจำนวนเงิน

 

โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50% จำนวน 150 บาทต่อวัน  ใช้ได้ในวงเงินที่รัฐกำหนดตลอดระยะเวลาที่โครงการกำหนด ใช้ไม่หมดในแต่ละวัน ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้ เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิและจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 06.00 น.ของทุกวัน สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00-23.00 น. กับทางร้านที่ร่วมรายการเท่านั้น

 

ล่าสุด มีข่าวดีเมื่อกระทรวงการคลังออกมาเปิดเผยว่า เตรียมพิจารณาเพิ่มวงเงินให้มากกว่า 1,500 บาท โดยวันนี้ (18 ม.ค.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีแผนที่จะปรับเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายสำหรับ โครงการคนละครึ่งเฟส 4 จากเดิมที่กำหนดวงเงินใช้จ่ายที่ 1,500 บาทต่อโครงการ ขณะเดียวกัน ยังจะเพิ่มระยะเวลาการใช้จ่ายจากเดิมที่กำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายประมาณ 3 เดือน

ไทม์ไลน์คนละครึ่งเฟส 4

• วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 : เปิดให้กดยืนยันสิทธิ์
• วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 : วันใช้จ่าย

 

คนละครึ่งเฟส 4 ผู้ได้สิทธิในโครงการ

คนเก่าที่ได้สิทธิคนละครึ่งเฟส 3 จำนวน 27.98 ล้านราย ต้องกดยืนยันตัวตนผ่านแอปเป๋าตังโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนคนใหม่ก็คือผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียน ต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ก่อนรับเงินเยียวยา 1,500 บาท เช่น เดียวกับ คนละครึ่ง เฟส 3

 

ช่องทางการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 4

1. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ คลิกที่นี่
2. ลงทะเบียนผ่านแอปฯเป๋าตัง พร้อมผูก G-wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง)

 

วิธียืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 4

• เข้า แอปเป๋าตัง กด G – Wallet
• กดแถบคนละครึ่ง
• กดยอมรับเงื่อนไข และรับสิทธิ
• แสดงผลการรับสิทธิสำเร็จ

วิธีการยืนยันตนผ่านแอปเป๋าตัง

1. เลือก "สมัครใช้และบริการ"
2. ยินยอม การจัดการข้อมูล ยืนยันตัวตน
3. เตรียมถ่ายบัตรประชาชน
4. ถ่ายบัตรประชาชน
5. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน
6. กรอกข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม
7. กรอกข้อมูล CDD
8. เลือกวิธีการยืนยันตัวตนด้วยแอปฯ Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า

 

กรณียืนยันตัวตนด้วย Krungthai NEXT

1. เข้าสู่ Krungthai NEXT
2. ระบุ PIN Krungthai NEXT
3. กดปุ่มดำเนินการบนแอปฯ เป๋าตัง
4. กรอกรหัส OTP* *OTP จะถูกส่งไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับ Krungthai NEXT
5. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล
6. เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร
7. หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก
8. หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ

 

กรณียืนยันตัวตนด้วย การสแกนใบหน้า

1. ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า
2. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล
3. เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร
4. หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก
5. หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ

 

กรณียืนยันตัวตนไม่ผ่าน

1. สามารถนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็ม ที่มีเมนู "ยืนยันตัวตน" ของธนาคารกรุงไทย
2. สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน
3. ถือค้างไว้เพื่อสแกนใบหน้ายืนยันตัวตน
4. ค้นหาจุดบริการยืนยันตัวตนใกล้คุณ
5. เลือกเมนู “ยืนยันตัวตน” (ไม่ต้องใช้บัตร ATM)
6. รับรองในการ Dip Chip เพื่อทำการพิสูจน์ตัวตน
7. ยินยอมให้ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการพิสูจน์ตัวตน เสียบบัตรประชาชน ในช่องยืนยันตัวตน / Confirm ID โดยหันด้านที่มีชิปขึ้น *ห้ามเสียบบัตรประชาชนในช่องเสียบบัตร ATM
8. รอระบบตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
9. เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จนำบัตรประชาชนออก
10. ดำเนินการต่อบนแอปฯ เป๋าตัง

ขอขอบคุณที่มา : คนละครึ่ง / ฐานเศรษฐกิจ