กรมโยธาฯ ไอเดียเจ๋ง ต่อยอดสร้างเขื่อนริมตลิ่ง ทำ “ริเวอร์ฟร้อนท์ เชียงของ”

14 มกราคม 2565 นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) กล่าวว่า ได้เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ เชียงของ ซึ่งเป็นเมืองริมแม่น้ำโขงที่มีชาวสปป.ลาว เดินทางเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าอยู่ตลอดเวลา โดยใช้หนังสือผ่านแดน (Border Pass) ซึ่งมีข้อกำหนดให้สามารถค้างพำนักสูงสุดได้ถึง 3 วัน 2 คืน แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ภายในพื้นที่ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากพอ

กรมโยธาธิการฯ จึงได้ดำเนินโครงการ “ริเวอร์ฟร้อนท์ เชียงของ” เพื่อพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – สปป.ลาว “เปลี่ยนเมืองผ่าน สร้างเมืองท่องเที่ยว” ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ทั้งการจัดทำทางจักรยานริมแม่น้ำโขง การปรับปรุงถนน ปรับปรุงท่าเรือ ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

โดยได้ปรับปรุงถนนเชื่อมระหว่างถนนสายกลางและถนนเลียบแม่น้ำโขง 4 เส้นทาง คือ ซอยด้านทิศใต้ของวัดพระแก้ว ซอยเทศบาล 3, 5 และ 7 ของเทศบาลตำบลเวียง ระยะทางรวม 0.21 กิโลเมตร และการปรับปรุงถนนเลียบแม่น้ำโขง สำหรับรถจักรยานและรถขนาดเล็ก ปูผิวจราจรด้วยอิฐตัวหนอน ระยะทางรวม 1.324 กิโลเมตร แยกทางสัญจรของรถออกจากทางจักรยาน โดยใช้เกาะกลางหรือแนวปลูกต้นไม้เป็นตัวแบ่งเขตการจราจร สามารถสร้างความปลอดภัยและให้ความร่มรื่นตลอดเส้นทาง ระยะทางรวม 4.09 กิโลเมตร

เพื่อให้เป็นเส้นทางในการสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยว เปิดมุมมองริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สวยงาม เป็นระเบียบ สามารถชมธรรมชาติ ทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไทย – สปป.ลาว ตลอดเส้นทาง พร้อมเที่ยวชมวัดพระแก้ว วัดหลวงไชยสถาน ท่าเรือผาถ่าน ห้วยน้ำสม พิพิธภัณฑ์ปลาบึกและสัตว์น้ำจืด วัดหาดไคร้ อนุสาวรีย์ปลาบึกและห้วยน้ำดุก รวมทั้งสามารถแวะรับประทานอาหารที่ร้านอาหารริมแม่น้ำโขงได้อย่างเพลิดเพลิน

นอกจากนี้ยังมีท่าเรือผาถ่าน จุดเช็คอิน ยอดฮิตเป็นจุดศูนย์กลาง ที่มีตำนานบอกกล่าวเล่าถึงความเป็นไปเป็นมาของพื้นที่อย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นจุดคมนาคมที่สำคัญของชาวไทย-สปป.ลาวและเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงที่มีลักษณะเป็นลานกว้างมีโขดหินเรียงราย ด้วยศักยภาพของพื้นที่ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างการเดินทางทางน้ำและทางบก นักท่องเที่ยวสามารถหาเรือโดยสารท่องเที่ยวแบบเหมาได้ที่บริเวณนี้หรือเดินทางต่อเข้าตัวเมืองเชียงของได้สะดวกยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่าเป็นการอนุรักษ์การท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมในเขตเมืองเก่าและพัฒนาการท่องเที่ยวทางธรรมชาติตามแนวริมฝั่งโขงไปพร้อมกัน

ทั้งนี้กรมโยธาธิการฯ ได้มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะต่อยอดจากโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะ และสูญเสียที่ดินริมตลิ่งแม่น้ำชายแดนระหว่างประเทศ หรือการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว เป็นจำนวนมากทั่วประเทศไทย ส่งผลให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน