ย้อนคำสอน "พระไพศาล" ย้ำชัด "ปีชง" ไม่มีอยู่ในหลักพุทธศาสนา

เป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ช่วง 1-2 วันผ่านมา ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โพสต์อ้างว่า แก้ปีชงที่ศาลเจ้าชื่อดัง ย่านเสาชิงช้า เขตพระนคร แต่กลับ “ชง” กว่าเดิม เมื่อถูกร้านค้าคู่กรณีเรียกเก็บบิลเครื่องไหว้เจ้า เป็นเงินเกือบ 7 พันบาท

ซึ่งภายในบิลมีทั้งค่าเทียน 690 บาท , ชุดหมูไหว้เจ้าพ่อเสือ 2 ชุด 780 บาท , ชุดไหว้เทพเจ้าโชคลาภ ประเภทผลไม้ 800 บาท , ชุดไหว้เทพ 4 องค์ 4 ชุด 1,200 บาท , ชุดกระดาษไหว้ขอพร 8 ใบ 1,200 บาท , องค์เสือทองบริวาร 4 ชุด 1,560 บาท , และชุดวัตถุมงคล 4 ชุด 600 บาท

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาทันที เนื่องจากจุดไหว้แก้ “ปีชง” ที่ศาลเจ้าดังกล่าว มักตกเป็นข่าวฉาวอยู่เป็นประจำ ทั้งการยัดสิ่งของเครื่องไหว้ และเรียกเก็บเงินหลังเสร็จสิ้นพิธี ที่มีราคาแพงเกินจริง จนทางศาลเจ้าต้องมีการติดป้ายเตือนนั้น

ล่าสุดสมาชิกโซเชียล มีการแชร์ข้อความเก่าที่ “พระอธิการไพศาล วิสาโล” พระนักเทศน์ชื่อดัง เคยโพสต์ผ่านเพจ “ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล” เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2557 ถึงเรื่อง “ปีชง” ว่า ปีชง ปุจฉา-กราบนมัสการพระคุณเจ้า อยากกราบเรียนถามพระคุณเจ้าในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับการชงว่า เท็จจริงในศาสนาพุทธมีหลักคำสอนเกี่ยวกับในเรื่องนี้อย่างไร ว่าควรเชื่อในการชงหรือใช้พิจารณญาณในการดำเนินชีวิตคิดตัดสินใจ

พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา-พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ฤกษ์ยามนั้นไม่สำคัญเท่ากับกรรมคือการกระทำ หากทำดีด้วยความพากเพียรแล้ว ย่อมได้รับประโยชน์ดังหวัง โดยไม่จำต้องพึ่งฤกษ์ยาม คนที่เอาแต่พึ่งฤกษ์ยาม ไม่รู้จักพึ่งตนเองนั้น ถือว่าเป็นคนโง่ ดังมีพุทธพจน์ว่า

ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่ อันที่จริงเมื่อใดที่เราทำความดี เมื่อนั้นก็เป็นฤกษ์ดี ยามดีอยู่แล้ว ดังมีพุทธพจน์อีกตอนหนึ่งว่า สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นย่อมชื่อว่าเป็น ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี

“มาถึงตรงนี้ก็คงจะเห็นแล้วว่า ความเชื่อเรื่องชงนั้น ไม่มีอยู่ในคำสอนของพุทธศาสนา ที่จริงกลับสวนทางกับคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยซ้ำ หากจะทำอะไรก็ตาม ก็ให้มั่นคงในความดี มีความเพียร และใช้สติปัญญา รวมทั้งคำนึงถึงคำสอนของพระพุทธองค์เรื่องสัปปุริสธรรม นั่น คือ จะทำอะไรก็ตาม ควรรู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักกาล รู้จักชุมชน และรู้จักบุคคล หากรู้ทั้ง ๗ ประการนี้แล้ว ก็ย่อมประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่เจริญงอกงาม”

(คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ)