กรณีปัญหาเนื้อหมูราคาแพง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตลาดค้าส่งเนื้อสุกร จังหวัดนครปฐม สอบถามผู้ประกอบการรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ปัญหาคือต้นทุนจากผู้เลี้ยง ราคาอาหารสัตว์ ค่าจ้างแรงงาน ปัจจุบันอายุ 60 ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอราคาเนื้อหมูที่แพงขนาดนี้
ย้อนหลังไป 3 เดือนก่อน ราคาหมูเป็น (หมูจากฟาร์ม) ประมาณ 80 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันกว่า 110 บาท ซึ่งกระทบกับผู้ค้าส่ง ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงผู้บริโภค เพราะรายย่อยที่รับเหมาไปขาย ก็ต้องบวกราคาเพิ่ม เพราะทุกคนมีค่าใช้จ่าย ค่าจ้างแรงงาน เพื่อความอยู่รอด ทุกวันนี้ ขายไม่ได้กำไรมากมาย ที่ยังทำอยู่เพราะเป็นอาชีพเดิม มีอาชีพเดียว เลี้ยงลูกค้าไว้
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องการคุมราคาของภาครัฐ ผู้ประกอบการรายนี้กล่าวว่า หากราคายังเป็นแบบนี้ รัฐบาลก็น่าจะเข้ามาช่วยอะไรบ้าง เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค จะได้เนื้อหมูราคาถูกลง แต่ก็เข้าใจผู้เลี้ยง เนื่องจากต้นทุนที่สูง ก็ต้องขายราคาแพงขึ้น แต่ก็อยากให้เข้าใจผู้บริโภค
หากรัฐบาลจะนำหมูนอกเข้ามา หรือจะมีหมูราคาถูกเข้ามาขายให้ประชาชน ก็น่าจะช่วยได้ แต่ก็น่าจะเป็นระยะสั้นๆ ทุกอย่างเวลานี้เป็นไปตามกลไกลของตลาด ไม่มีใครอยากให้ราคาแพง หากถึงช่วงตรุษจีนคิดว่าราคายังจะขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากตรุษจีน ราคาจะขึ้นไปถึงขนาดไหนไม่มีใครบอกได้
ด้านผู้ค้าหมูรายหนึ่งในอำเภอสามพราน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ราคาหมูที่แพงขึ้น เนื่องจากผู้เลี้ยงรายย่อยลดน้อยลง ผู้เลี้ยงหลายรายเลิกเลี้ยงไปโดยปริยาย เนื่องจากต้นทุนการเลี้ยง ราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว แบกภาระขาดทุนไม่ไหวจึงต้องเลิกไปในที่สุด ผู้เลี้ยงหลายรายย้ายไปเลี้ยงที่จังหวัดราชบุรี ด้วยความเจริญของชุมชน ประชาชนร้องเรียนเรื่องกลิ่นมากขึ้น
ส่วนเรื่องโรคระบาด จากประสบการณ์การเป็นผู้เลี้ยง ยืนยันไม่กระทบ เพราะผู้เลี้ยงทุกราย มีวิธีบริหารจัดการตัวเอง แต่หลังจากปีใหม่ไป อาจจะกระทบอีกอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน หมู่ที่เลี้ยงโตช้า ปริมาณหมูที่จะออกมาขายได้ก็ลดลง ราคาก็จะแพงขึ้น