"10 บุคคล" ในข่าวดังสนั่นเมือง ปี 2564 

1. “ลิซ่า” คนไทยโด่งดังระดับโลก

ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง BLACKPINK จากประเทศเกาหลีใต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลิซ่า BLACKPINK สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการเพลง K-POP ด้วยสถิติยอดวิวในยูทูบเพลงเดี่ยว “Lalisa” ยอดวิวทะลุ 300 ล้านวิว ในเวลาเพียง 13 วัน ทำให้เธอได้รับการยอมรับในฐานะศิลปินดาวรุ่งมากความสามารถที่มีฐานแฟนคลับจากทั่วโลก 

 

นอกจากนี้ “ลิซ่า” ยังคว้าอันดับ 1 ในตำแหน่ง Beautiful Faces จากผลการจัดอันดับคนดังทั่วโลกแห่งปี “The 100 Most Beautiful Faces และ The 100 Most Handsome Faces ประจำปี 2021” จาก TC Candler เว็บจัดอันดับความนิยมคนบันเทิงและเซเลบริตี้ทั่วโลก โดยกลุ่มนักวิจารณ์อิสระของสหรัฐ 

 

ความโด่งดังเกินต้าน “ลิซ่า”  ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 20 ผู้หญิงที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลก "World's Most Admired" ประจำปี 2021 โดย YouGov สถาบันจัดอันดับการตลาดชื่อดังของอังกฤษ เป็นครั้งแรกที่ลิซ่าถูกรวมอยู่ในรายชื่อ ซึ่งเธอเป็นไอดอลเคป๊อปเพียงคนเดียวที่ติด 20 ร่วมกับบุคคลดังระดับโลก เช่น มิเชล โอบามา, แองเจลินา โจลี่, ควีนอลิซาเบธที่ 2, โอปราห์ วินฟรีย์ และสการ์เล็ตต์ โยฮันน์สัน 

 

 

 

 

2.“หมอยง” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโควิด-19
“ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ” หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์ผู้มีความโดดเด่น รู้และเข้าใจโควิด -19 และวัคซีน

 

เป็นแพทย์คนแรกๆ ที่ออกมาสร้างความเข้าใจความรู้ให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนตื่นตัว และตระหนักในการดูแลตัวและมีส่วนร่วมกับการรับผิดชอบสังคมในการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

 

 

3. “ท็อป จิรายุส” ผู้ปลุกกระแสการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
“ท็อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ผู้ก่อตั้งบิทคับ (Bitkub) ศูนย์แลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นของไทย

 

นักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง ในวัย 31 ปี ที่สะท้อนวิสัยทัศน์พลังคนรุ่นใหม่ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับแวดวงการเงินและการลงทุนได้อย่างก้าวกระโดด 

 

ท็อป จิรายุส พัฒนาสิ่งใหม่ในโลกคริปโตเคอเรนซี่ ที่จะเป็น “สะพานเชื่อมโยงโลกเก่าสู่โลกอนาคต”  ซึ่งเขามองเห็นอนาคต ในระยะ 3 -5 ปีข้างหน้า จะเป็นโลกของ “ไฟแนนซ์เชียลแฟลตฟอร์ม” 

 

ยิ่งดังเป็นพลุแตก เมื่อ ได้ปิดดีลขนาดใหญ่ในการเข้ามาลงทุนของ “SCB X” มูลค่า 17,850 ล้านบาท ทำให้บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ขึ้นมาเป็น 1 ในบริษัทสตาร์ทอัพระดับ “ยูนิคอร์น” ของไทยอย่างเป็นทางการ 

 

จากดีลนี้ ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีใหม่ ได้เงินสดจาก SCBS ทันที 4,260 ล้านบาท ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา  "ท็อป จิรายุส"  มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มองเห็นโลกอนาคตจะเปลี่ยนไปทางด้านไหน 

 

 

 

 

เขานำพา "Bitkub"  เป็นบริษัทมีรายได้โตเกิน 1,000 % ต่อปี คาดว่าภายในสิ้นปี 2564 มีรายได้แตะ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2561 มีรายได้เพียง 3 ล้านบาท และมีกำไรเติบโตก้าวกระโดดภายในสิ้นปี 2564 คาดกำไรจะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนมี กำไร 100 ล้านบาทเท่านั้น ปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ของลูกค้าดูแลทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท 

 

ในอนาคตเขาตั้งเป้าหมายจะนำพาองค์กรเป็นธุรกิจที่ติดอันดับ 1 ใน10 ของธุรกิจรายใหญ่ของประเทศไทย ทั้งในแง่มูลค่าธุรกิจและมูลค่าที่สร้างต่อเศรษฐกิจของประเทศ  

 

4."หนุ่ม กรรชัย” สยบทุกดรามา จบในรายการ 
“หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ที่อยู่ในแวดวงข่าวเด่นตลอดปี เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทอล์กออฟเดอะทาวน์ก็ต้องมาจบที่รายการโหนกระแส

 

เรื่องที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานราชการ พอมาร้องทุกข์ บอกเล่าปัญหาผ่านทางรายการ วันพรุ่งได้รับการแก้ไขเรียบร้อย  ใครทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็มาเคลียร์ปมปัญหา ถึงขั้นด่าทอกันหยาบคายผ่านรายการสดก็มีมาแล้ว ซึ่งก็เป็นบทเรียนให้กับทางรายการในการคัดเลือกบุคคลมาเป็นแขกรับเชิญ พร้อมทั้งคัดกรองประเด็นเรื่องผัวๆ เมียๆ ไม่ให้ความสำคัญนำมาเสนอต่อสาธารณชน

 

นอกจากนี้ยังสร้างปรากฎการณ์ใหม่ พาแขกรับเชิญตรวจครรภ์ ส่งแขกรับเชิญขึ้นรถจับกุมหลังจบรายงานก็มี สดทันใจแบบนี้ ต้องยกให้หนุ่มอุ้ย!! 

 

 

 

 

5. “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์ แค่ 10 นาที โกย 100 ล้าน
ตั้งแต่ต้นปี ที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด พิมรี่พาย ได้สร้างคอนเทนต์ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงได้สร้างโรงพยาบาลสนาม ในช่วงที่ผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากล้นทะลักโรงพยาบาล  

 

ได้ทำคลิปวิดีโอนำเสนอเรื่องราวชุมชนไม่มีไฟฟ้า จนเกิดการตั้งคำถามถึงปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยในหลายเรื่อง สร้างแรงกระเพื่อมไปถึงหน่วยงานราชการอยู่เป็นเรื่องๆ เช่น ลามไปสู่การเปิดงบประมาณในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ของหน่วยงานรัฐ 

 

ช่วงท้ายปีเธอยังสร้างปรากฏการณ์การไลฟ์สดขายของ ด้วยการทำ “กล่องสุ่ม” กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ สำหรับ “กล่องสุ่ม” ที่มีราคาสูงถึง 1 แสนบาท ปรากฏว่า มีลูกค้ามาเข้าซื้อถล่มทลาย ทำสถิติเพียง 10 นาที  ทำเงินไปได้ 100 ล้านบาท แถมยังจัดเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้า สุ่มได้รถเก๋งป้ายแดงกันไปหลายรายเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันก็มีกล่องสุ่มที่เกิดรามาเรื่องของคุณภาพ ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาขอโทษและรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น 

 

ยังไม่พอ คลินิก อิส คิวท์ คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง ยังถูกสั่งปิดเนื่องจากมีลูกค้าหลายรายร้องเรียนเรื่องการรักษาคิ้ว หน้าไม่เท่ากัน รวมถึงสร้างความตกใจแก่วงการศัลยกรรมความงาม เมื่อมีหมอปลอมในคลิกนิกทำการรักษาคนไข้  ทำให้ช่วงโค้งสุดท้ายสิ้นปี พิมรี่พาย ต้องออกมาน้ำตาแตกกลางไลฟ์สด กราบขอโทษลูกค้า 

 

 

 

6. “2 พส.” เขย่าวงการผ้าเหลือง” 
ในขณะที่ยังครองผ้าเหลือง “พระมหาไพรวัลย์” และ  “พระมหาสมปอง” แห่ง วัดสร้อยทองกลายเป็นบุคคลที่ครองพื้นที่ข่าว และกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ไม่ว่าจะ เอ่ยถึงวงการไหนก็เขย่าได้สุดขั้ว ทั้งการเมือง แวดวงสงฆ์ จนกลายเป็นคนขวัญใจเยาวรุ่น 

ยิ่งการไลฟ์สดแสดงธรรม หยิกหยอกบุคคล เหตุการณ์ต่างๆ สร้างความความสนุกเฮฮาเข้าถึงทุกเพศทุกวัยทำให้ ยอดวิว live ทะลุ 2 แสน และยอดผู้ติดตามในแฟนเพจเพิ่มเป็น 1 ล้านคน ภายในคืนเดียว 

 

จน #พระมหาไพรวัลย์ ดังขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 แต่ก็ไม่วายเจอดราม่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ไปอย่างกว้างขวางในสังคมทุกชนชั้นทำให้ทำวงการสงฆ์ลุกเป็นไฟ มีการถกเถียงกันเฉพาะในประเด็นถูก-ผิด เหมาะสม-ไม่เหมาะสม

จนกระทั่งลุกลามใหญ่โต ในที่สุด พระมหาไพรวัลย์  ขอสึก ลาสิกขา วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ต่อมา พระมหาสมปอง ก็ขอลาลาสิกขาในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 เรียกว่าเป็นการปิดตำนาน พส.ที่สุดของการแสดงธรรมในโลกออนไลน์

 

 

7.คุก”เปรมชัย” เจ้าสัวเขมือบเสือดำ 
"เปรมชัย กรรณสูต" อดีตประธานบริหารบริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทย บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่สุดของไทย ตกเป็นข่าวดังส่งท้ายปี  จากคดีล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก คดีเกิดเมื่อปี  2561 และถูกจับกุมโดย "วิเชียร ชิณวงษ์" หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก หลังจากสู่กันนานร่วม 3 ปี 

 

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ศาลฎีกา พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน 
คดีนี้เป็นที่สนใจของผู้คนในสังคมเป็นจำนวนมาก เพราะผู้ต้องหาเป็นนักธุรกิจใหญ่ ที่มีชื่อเสียงและคอนเนคชั่นกับคนในรัฐบาลมากมาย จนเกิดกระแสเสือดำต้องไม่ตายฟรี ในสื่อสังคมออนไลน์

 

คดีล่าเสือดำ ที่เพิ่งสิ้นสุดไป ถือได้ว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในคดีสิ่งแวดล้อม 
อีกประการที่สำคัญ คือการตื่นตัวในกระแสอนุรักษ์ของผู้คนในโลกออนไลน์ 

 

 

 

 

8. “เทนนิส” เหรียญทองประวัติศาสตร์
“เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักกีฬาเทควันโดคนแรกของไทยที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 มาครองได้สำเร็จ เฉือนเอาชนะคู่แข่งในช่วง 7 วินาทีสุดท้าย นับเป็นบทพิสูจน์หัวใจนักสู้ที่สู้สุดหัวใจ สร้างความประทับใจและเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ

 

กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เทนนิสต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างมหาโหดเป็นเวลาหลายเดือน เคล็ดลับในการประสบความสำเร็จ คือการลงมือปฏิบัติ และการมีทัศนคติที่บวก  เธอบอกว่าสามารถใช้ได้กับทุกอาชีพ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักกีฬาเหมือนเธอก็ได้

 

 

 

9.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีตกสวรรค์
รอบปีที่ผ่านมา บทบาทของนักการเมืองไม่มีใครตกเป็นข่าวมากเท่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ โดยหลังจากสื่อเผยแพร่เอกสารทางการออสเตรเลีย ที่ยืนยันว่า ร.อ ธรรมนัส ถูกจำคุก 4 ปี จริง ฐานมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการนำเข้าเฮโรอีนไปออสเตรเลีย ร.อ.ธรรมนัส ก็เผชิญแรงกดดันเรื่อยมา 

 

แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ขาดคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็น ส.ส. หรือรัฐมนตรี เท่ากับ “พยัคฆ์ติดปีก” และเริ่มสั่งสมขุมกำลังในพรรค และจากบรรดาพรรคเล็ก จนเป็นที่มาของปรากฎการณ์ “ลิงกินกล้วย” ในสภาฯ 

 

ด้วยความลำพองของเขา ด้วยคิดการณ์ใหญ่ต้องการโค่น “ต้นมะม่วง” ในศึกซักฟอกนายกรัฐมตรี เมื่อทำไม่สำเร็จก็ย่อมต้องกลายเป็นกบฏ ถูกปลดตกเก้าอี้รัฐมนตรีแบบฟ้าผ่า และเกิดสึกนามิมาถึงการปลดพ้นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ทำให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพี่ใหญ่ 3 ป ต้องออกมาหย่าทัพ 

 

 

 

การออกมาปกป้อง ร.อ.ธรรมนัส จนเกิดศึก “พี่ป้อม” กับน้องเลิฟ “ป๊อก ประยุทธ์” เห็นได้จากการวัดขุมกำลังส.ส. ระหว่างพี่น้อง 3 ป แบ่งสายลงพื้นที่เช็กเรตติ้ง แม้ว่าตอนนี้ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีแรงกระเพื่อมมากนัก แต่คนในพรรคย่อมทราบดีว่าคลื่นใต้น้ำนั้นแรงและไหลเชี่ยว ทั้งหมดนี้เกิดจากคนเพียงคนเดียวคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า