นโยบายคนละครึ่งเป็นนโยบายเชิงกลยุทธ์ เป็นหนึ่งในยุทธวิธีควักเงินออกมาจากกระเป๋าประชาชนไปจ่าย และรัฐบาลสนับสนุนไปครึ่งหนึ่งในวงเงินวันละ 150 บาท
นโยบายคนละครึ่งเป็นนโยบายที่ครีเอทมากที่สุดในจำนวนหลายๆ นโยบาย ถึงแม้หลายคนจะเป็นหนี้แต่หลายคนก็มีเงินออม หลายคนไม่กล้าจ่ายในสถานการณ์โควิด เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้คนกล้าที่จะจ่าย จึงออกนโยบายคนละครึ่งขึ้นมา คนที่ได้อานิสงส์มีอยู่สองกลุ่ม หนึ่งพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย เดิมทีใช้จ่ายเพียงแค่ประชาชนอย่างเดียว แต่รอบนี้รัฐบาลสมทบ ร้านค้าคึกคักทำให้เงินหมุน GDP จากที่ตกต่ำก็สามารถประคับประคองได้ แต่คนที่ได้อานิสงส์อีกหนึ่งคือผู้ซื้อ เดิมทีจ่ายไปเต็มๆ แต่รอบนี้อีกครึ่งหนึ่งรัฐบาลสมทบ
รัฐบาลชุดนี้พยายามที่จะบอกว่าไม่ใช่ประชานิยม เพราะคำว่าประชานิยมค่อนข้างไปทางเชิงลบ หลายๆ ประเทศในอเมริกาใต้ เจ๊งกลับประชานิยม ไทยเราเองก็เคยมีตอนจำนำข้าว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็คือประชานิยม
นโยบายประชานิยม คืออะไร
นโยบายด้านเศรษฐกิจที่มีเป้าหมายทางการเมือง
เหมือนยาเสพติด ลด-เลิกยาก ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เฟส 1 (23 ต.ค. - 31 ธ.ค. 63) เป้าหมาย 10 ล้านราย ผลดำเนินงานเฟส 1 (ณ 27 ธ.ค. 63)
ใช้สิทธิ์ 9,565,644 ราย
ใช้จ่ายสะสม 49,049.8 ล้านบาท แบ่งเป็น
ประชาชน 25,100.5 ล้านบาท รัฐร่วมจ่าย 23,949.2 ล้านบาท
5 จังหวัดจ่ายสะสมมากที่สุด กทม., สงขลา, ชลบุรี, เชียงใหม่, สุธาษฎร์ธานี ร้านค้าร่วมโครงการ 1.1 ล้านร้านค้า
เฟส 2 (1 ม.ค. 64 - 31 มี.ค. 64) เป้าหมาย 15 ล้านราย ผลดำเนินงานเฟส 2 (ณ 31 มี.ค.2564)
ใช้สิทธิ์ 14,793,503 ราย
ใช้จ่ายสะสม 102,065 ล้านบาท แบ่งเป็น
ประชาชน 52,251 ล้านบาท รัฐร่วมจ่าย 49,814 ล้านบาท
5 จังหวัดจ่ายสะสมมากที่สุด กทม., ชลบุรี, สมุทรปราการ, สงขลา, เชียงใหม่ ร้านค้าร่วมโครงการ 1.5 ล้านร้านค้า
เฟส 3 (1 ก.ค.-31 ธ.ค.64) เป้าหมาย 28 ล้านราย ผลดำเนินงานเฟส 3 (ณ 16 ธ.ค.2564)
ใช้สิทธิ์ 26.3 ล้านราย
ใช้จ่ายสะสม 204,325 ล้านบาท แบ่งเป็น
ประชาชน 103,901.1 ล้านบาท รัฐร่วมจ่าย 100,423.9 ล้านบาท
ร้านค้าร่วมโครงการ มากกว่า 1.5 ล้านร้านค้า
เฟส 3 ใช้จ่ายอะไรบ้าง
ร้านธงฟ้า 32,786.3 ล้านบาท
ร้าน OTOP 9,777.9 ล้านบาท
ร้านค้าทั่วไป 76,750.3 ล้านบาท
ร้านบริการ 3,521 ล้านบาท
กิจการขนส่งสาธารณ: 234.3 ล้านบาท
นโยบายคนละครึ่ง เป็นประชานิยมที่ยิงตรงเป้า ก่อให้เกิดการหมุนในเศรษฐกิจ นี่คือนโยบายที่สุดยอดแห่งความสำเร็จที่รัฐบาลทำมา
กลุ่มเป้าหมายคนละครึ่ง
แสดงว่านโยบายนี้ได้ประโยชน์กับประชาชนเกือบครึ่ง เมื่อนำไปเทียบนโยบายอื่นของรัฐบาล
ตอนนี้อาวุธที่เรามีอยู่จำกัดอย่างยิ่ง และผลของอาวุธที่มีจำกัดทำให้ต้องไปขยายเพดานหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 60% เป็น 70% ซึ่งเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 10 ปี
นโยบายคนละครึ่งเป็นนวัตกรรมสุดยอดของนโยบาย แต่ว่ากันว่าถ้าเราเลี่ยงประชานิยมพ้นเมื่อไหร่ คนละครึ่งจะสามารถกอบกู้เศรษฐกิจและก่อให้เกิดความยั่งยืนหรือไม่ นโยบายประชานิยมไม่น่าห่วง ทุกรัฐบาลสามารถดำเนินการได้แต่ที่ห่วงคือต้องรู้ว่าแหล่งที่มาของเงิน หรือการจัดเก็บรายได้เหล่านั้นคุ้มค่าหรือมีมากพอที่จะตอบสนองประชานิยมมากน้อยแค่ไหน
ที่มา : เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร