svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"คนละครึ่ง" นวัตกรรมแอบแฝง "ประชานิยม"

23 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ผ่านมามีมติพิเศษให้ของขวัญประชาชน โดยเฉพาะมาตรการคนละครึ่งเฟส 4

นโยบายคนละครึ่งเป็นนโยบายเชิงกลยุทธ์ เป็นหนึ่งในยุทธวิธีควักเงินออกมาจากกระเป๋าประชาชนไปจ่าย และรัฐบาลสนับสนุนไปครึ่งหนึ่งในวงเงินวันละ 150 บาท

 

นโยบายคนละครึ่งเป็นนโยบายที่ครีเอทมากที่สุดในจำนวนหลายๆ นโยบาย ถึงแม้หลายคนจะเป็นหนี้แต่หลายคนก็มีเงินออม หลายคนไม่กล้าจ่ายในสถานการณ์โควิด เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้คนกล้าที่จะจ่าย จึงออกนโยบายคนละครึ่งขึ้นมา คนที่ได้อานิสงส์มีอยู่สองกลุ่ม หนึ่งพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย เดิมทีใช้จ่ายเพียงแค่ประชาชนอย่างเดียว แต่รอบนี้รัฐบาลสมทบ ร้านค้าคึกคักทำให้เงินหมุน GDP จากที่ตกต่ำก็สามารถประคับประคองได้ แต่คนที่ได้อานิสงส์อีกหนึ่งคือผู้ซื้อ เดิมทีจ่ายไปเต็มๆ แต่รอบนี้อีกครึ่งหนึ่งรัฐบาลสมทบ

 

รัฐบาลชุดนี้พยายามที่จะบอกว่าไม่ใช่ประชานิยม เพราะคำว่าประชานิยมค่อนข้างไปทางเชิงลบ หลายๆ ประเทศในอเมริกาใต้ เจ๊งกลับประชานิยม ไทยเราเองก็เคยมีตอนจำนำข้าว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็คือประชานิยม

 

นโยบายประชานิยม คืออะไร

 

  1. ออกแบบลักษณะนำเงินของรัฐ ภาษีประชาชน ใช้แลกกับความนิยม คะแนนเสียง สร้างความพอใจ และสร้างทัศนคติให้ประชาชน เป็นผู้รอรับความช่วยเหลืออย่างเดียว
  2. นโยบายด้านเศรษฐกิจที่มีเป้าหมายทางการเมือง

  3. เหมือนยาเสพติด ลด-เลิกยาก ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

"คนละครึ่ง" นวัตกรรมแอบแฝง "ประชานิยม"

เฟส 1 (23 ต.ค. - 31 ธ.ค. 63) เป้าหมาย 10 ล้านราย ผลดำเนินงานเฟส 1 (ณ 27 ธ.ค. 63)

  • ใช้สิทธิ์ 9,565,644 ราย

  • ใช้จ่ายสะสม 49,049.8 ล้านบาท แบ่งเป็น

ประชาชน 25,100.5 ล้านบาท รัฐร่วมจ่าย 23,949.2 ล้านบาท

5 จังหวัดจ่ายสะสมมากที่สุด กทม., สงขลา, ชลบุรี, เชียงใหม่, สุธาษฎร์ธานี ร้านค้าร่วมโครงการ 1.1 ล้านร้านค้า

 

เฟส 2 (1 ม.ค. 64 - 31 มี.ค. 64) เป้าหมาย 15 ล้านราย ผลดำเนินงานเฟส 2 (ณ 31 มี.ค.2564)

  • ใช้สิทธิ์ 14,793,503 ราย

  • ใช้จ่ายสะสม 102,065 ล้านบาท แบ่งเป็น

ประชาชน 52,251 ล้านบาท  รัฐร่วมจ่าย 49,814 ล้านบาท 

 

 

5 จังหวัดจ่ายสะสมมากที่สุด กทม., ชลบุรี, สมุทรปราการ, สงขลา, เชียงใหม่ ร้านค้าร่วมโครงการ 1.5 ล้านร้านค้า

"คนละครึ่ง" นวัตกรรมแอบแฝง "ประชานิยม"

เฟส 3 (1 ก.ค.-31 ธ.ค.64) เป้าหมาย 28 ล้านราย ผลดำเนินงานเฟส 3 (ณ 16 ธ.ค.2564)

  • ใช้สิทธิ์ 26.3 ล้านราย

  • ใช้จ่ายสะสม 204,325 ล้านบาท แบ่งเป็น

ประชาชน 103,901.1 ล้านบาท รัฐร่วมจ่าย 100,423.9 ล้านบาท

ร้านค้าร่วมโครงการ มากกว่า 1.5 ล้านร้านค้า

 

เฟส 3 ใช้จ่ายอะไรบ้าง

  • ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 81,255.2 ล้านบาท
  • ร้านธงฟ้า 32,786.3 ล้านบาท

  • ร้าน OTOP 9,777.9 ล้านบาท

  • ร้านค้าทั่วไป 76,750.3 ล้านบาท

  • ร้านบริการ 3,521 ล้านบาท

  • กิจการขนส่งสาธารณ: 234.3 ล้านบาท

"คนละครึ่ง" นวัตกรรมแอบแฝง "ประชานิยม"

นโยบายคนละครึ่ง เป็นประชานิยมที่ยิงตรงเป้า ก่อให้เกิดการหมุนในเศรษฐกิจ นี่คือนโยบายที่สุดยอดแห่งความสำเร็จที่รัฐบาลทำมา

กลุ่มเป้าหมายคนละครึ่ง

  • เฟส 1 จำนวน 10 ล้านคน
  • เฟส 2 จำนวน 15 ล้านคน
  • เฟส 3 จำนวน 31 ล้านคน

"คนละครึ่ง" นวัตกรรมแอบแฝง "ประชานิยม"

แสดงว่านโยบายนี้ได้ประโยชน์กับประชาชนเกือบครึ่ง เมื่อนำไปเทียบนโยบายอื่นของรัฐบาล

"คนละครึ่ง" นวัตกรรมแอบแฝง "ประชานิยม"

ตอนนี้อาวุธที่เรามีอยู่จำกัดอย่างยิ่ง และผลของอาวุธที่มีจำกัดทำให้ต้องไปขยายเพดานหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 60% เป็น 70% ซึ่งเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 10 ปี

 

นโยบายคนละครึ่งเป็นนวัตกรรมสุดยอดของนโยบาย แต่ว่ากันว่าถ้าเราเลี่ยงประชานิยมพ้นเมื่อไหร่ คนละครึ่งจะสามารถกอบกู้เศรษฐกิจและก่อให้เกิดความยั่งยืนหรือไม่ นโยบายประชานิยมไม่น่าห่วง ทุกรัฐบาลสามารถดำเนินการได้แต่ที่ห่วงคือต้องรู้ว่าแหล่งที่มาของเงิน หรือการจัดเก็บรายได้เหล่านั้นคุ้มค่าหรือมีมากพอที่จะตอบสนองประชานิยมมากน้อยแค่ไหน

 

ที่มา : เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร

logoline