เศรษฐกิจทั้งโลกก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 เดือน มองว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น เมื่อมีโอมิครอน ตอนนี้หลายสำนักเริ่มปรับประมาณการใหม่มีความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ความวิตกกังวลสะท้อนได้จากวิกฤตของโอมิครอนที่กำลังแพร่ระบาดออกไป ขยายตัวไปทั้งโลก
หลายประเทศ เผชิญปัญหาเรื่องการติดเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็ว สหราชอาณาจักรทะลุไปวันเดียว 30,000 ราย
10 อันดับแรกของโลกที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนีหุ้นเป็นตัวสะท้อนจิตวิทยาในการลงทุน การลงทุนของทั้งโลกวันนี้สีแดงเถือก
สะท้อนจิตวิทยาว่าการลงทุนชะงัก และประเทศไทยบอกว่าเราเป็นเซฟตี้มีมาตรการต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งโลก ตอนนี้ติดเชื้อ 63 ราย เดิมทีบอกว่าเป็นชาวต่างชาติหมดที่ติดเชื้อ ตอนนี้เจอที่คนไทยหนึ่งราย มีสามีเป็นนักบิน หลายคนบอกว่าโอมิครอน ไม่เป็นอันตราย หมอยงออกมาพูดไว้ก่อนหน้านี้เตือนคนไทยและรัฐบาลหน่วยงานต่างๆพิจารณา
“ประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้น ที่จะระบาดของสายพันธุ์นี้ในอนาคตอันใกล้นี้ จะเลยปีใหม่หรือไม่ยังไม่ทราบ และมีโอกาสที่จะเกิดเป็นคลัสเตอร์กระจายอย่างรวดเร็ว ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันในการดูแลป้องกันซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่”
เชื้อไม่ได้เดินทางจากคนอีกต่อไป แต่มันอยู่ในอากาศ สัดส่วนในประเทศไทยถึงจะยังไม่น่าวิตกกังวล แต่ก็น่ากลัว
โอมิครอนเข้ามาเร็วมาก หนึ่งสัปดาห์ประเทศไทยเพิ่มขึ้นสามเท่า พบในกทม.เพิ่มขึ้น 18.3% กระทรวงสาธารณสุขที่ป้องกันแบบเดิมจะต้องพิจารณา ไม่เช่นนั้นไวรัสที่ใครๆ บอกว่ากระจอก มันจะคุกคามเข้ามาทุกชีวิต
ผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกในประเทศไทย สัมผัสกับสามีชาวโคลัมเบีย อาชีพนักบินโดยสามี เดินทางถึงไทย
นายกรัฐมนตรีประกาศแสดงจุดยืนในแนวทาง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทย ท่านนายกบอกว่า แม้ว่าสงครามในครั้งนี้ จะยืดเยื้อเกินกว่าที่ทั่วโลกหรือใคร ๆ จะคาดคิดไว้ และเรายังไม่ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด แต่ในวันนี้ (20 ธ.ค.64) ก็ถือเป็นอีกวันหนึ่ง ที่เราบรรลุเป้าหมายสำคัญนั่นคือการสามารถฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องชาวไทย ทะลุยอด 100 ล้านโดสได้สำเร็จภายในปี 2564 ตามที่รัฐบาลได้เคยประกาศไว้
ในแง่ของวัคซีนในการฉีดแต่วิธีการป้องกันคนก็ต้องไม่ประมาทเช่นเดียวกัน ศบค. ชุดเล็กก็พยายามที่จะประเมิน ทบทวนมาตรการ แต่ต้องรอชุดใหญ่วันศุกร์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
หมอหนูประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าไวรัสนี้กระจอก
“ไทยพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน 63 คน เบื้องต้นจะเสนอศบค.ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test&Go แล้วใช้วิธีกักตัวแบบ State Quarantine โอมิครอนรุนแรงมากขึ้น หลายประเทศยกเลิกจัดเคาต์ดาวน์ปีใหม่แล้ว ส่วนผู้ที่ฉีดชิโนแวค 2 เข็ม ขอให้มารับเข็ม 3 ด่วน มีผลการทดลองออกมาว่าซิโนแวคไม่ค่อยตอบสนองกับโอมิครอน ดังนั้น มาฉีดไฟเซอร์ หรือแอสตราฯเป็นบูสเตอร์ก็จะช่วยได้เยอะ”
องค์การอนามัยโลก WHO ออกมาระบุปัญหา
อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานบริษัทไฟเซอร์วัคซีน บอกว่า เราเชื่อว่าโควิตจะเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น เป็นไปได้ว่าภายในปี 2567
แอนโทนี เฟาซี ผู้เชียวชาญด้าน โรคติดเชื้ออันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ออกมาบอกว่า อย่ามองโลกในแง่ดีเกินไปเรื่องความรุนแรงของโอมิครอน เมื่อมีการติดเชื้อมากๆ แม้จะรุนแรงน้อยกว่า แต่ก็บดบังความรุนแรงที่ลดลงเพียงเล็กน้อยไปได้ สำหรับโรงพยาบาลของเราถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ โรงพยาบาลจะตึงตัวมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ระดับการฉีดวัคซีนต่ำ
ขนาดหมออันดับหนึ่งยังออกมาเตือน ปัญหาเตียงขาดแคลนจะวนลูปเข้ามาหาคนไทย ถ้าหากว่าไม่ร่วมมือกันป้องกันตัวเองจากไวรัสวายร้าย แนวนโยบายของรัฐบาลอย่าคิดแค่มาตรการในวันพรุ่งนี้ แต่ต้องได้หาวิธีวางมาตรการอีก 2-3 ปี
ที่มา : เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ, วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร